(เพิ่มเติม1) ผถห.JAS ไฟเขียวจัดตั้งกองทุนอสังหาฯ มูลค่า 6-7 หมื่นลบ.,คำสั่งศาลฯไม่มีผลกระทบ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 25, 2013 15:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการ บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น JAS มีมติอนุมัติให้บริษัทหรือ บริษัทย่อยเข้าทำรายการขายสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตโดยบริษัทหรือบริษัทย่อยให้แก่กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานสำหรับธุรกิจบรอดแบนด์อินเทอร์เนต ที่ขนาดรายการประมาณ 6-7 หมื่นล้านบาท ด้วยคะแนนเสียงร้อยละ 92.2493% ซึ่งมากกว่าคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนนโดยไม่นับผู้ถือหุ้นที่มีส่วนได้เสีย

ทรัพย์สินที่จะจำหน่ายให้กองทุนฯ ได้แก่ โครงข่ายใยแก้วนำแสง (OFC) ประมาณ 6.7 หมื่นคอร์กิโลเมตร , Access Node สำหรับ ADSL ประมาณ 18,000 จุด และ Cableที่เชื่อมโยงถึงลูกค้า ADSL ประมาณ 1.6 ล้านพอร์ต รวมมูลค่าทางบัญชีที่จะส่งมอบประมาณ 10,000 ล้านบาท

JAS จะนำเงินที่ได้จากกองทุนฯใช้เป็นเงินทุนในการขยายธุรกิจบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต รวมถึงภาระหน้าที่ที่ต้องส่งมอบสินทรัพย์ในอนาคตให้กองทุน จำนวน 3,800 ล้านบาท โดยจะลงทุนโครงข่ายใยแก้วนำแสง มูลค่าก่อสร้าง 1,200 ล้านบาท Access Node สำหรับ ADSL ประมาณ 10,200 จุด มูลค่า 1,000 ล้านบาท และ Cable ที่เชื่อมโยงถึงลูกค้า ADSL ประมาณ 0.65 ล้านพอร์ต มูลค่า 1,600 ล้านบาท จะทำให้บริษัทสามารถรองรับเพิ่มเป็น 2.25 ล้านพอร์ต

นอกจากนี้ นำเงินไปใช้จองซื้อหน่วยกองทุนที่ออกจำหน่ายจำนวนหนึ่งในสาม หรือประมาณร้อยละ 33.33 ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมด จำนวนเงินประมาณ 20,000 -23,000 ล้านบาท, ชำระค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการจำหน่ายสินทรัพย์ และออกกองทุนรวมถึงค่าภาษีต่างๆ ประมาณ 1,500-2,000 ล้านบาท

และส่วนที่เหลือ 25,760 - 30,360 ล้านบาท เป็นกระแสเงินสดเข้ามาบริษัทซึ่งบริษัทจะนำไปชำระคืนหนี้สินบางส่วนตามความเหมาะสม และนำเงินบางส่วนไปลงทุนโครงการอื่นในอนาคต

ที่ประชุมผู้ถือหุ้นยังได้มีมติให้บริษัทนำหุ้นของบมจ. ทริปเปิลที บรอดแบนด์ (TTTBB) ซึ่ง JAS ถือหุ้นทางอ้อมร้อยละ 99.2 และ บริษัท ทริปเปิลที อินเทอร์เน็ต จำกัด (TTTI) ซึ่งถือหุ้นทางอ้อม 99.9% ไปจำนำเป็นหลักประกันแก่กองทุนฯ คิดเป็นมูลค่ารายการอยู่ที่ 3,616 ล้านบาท

รวมทั้งอนุมัติให้บริษัทและบริษัทย่อย จะเช่าสินทรัพย์ทั้งหมดจากกองทุนฯในลักษณะการเช่าเพื่อดำเนินงานทรัพย์สินเพื่อใช้ทรัพย์สินดังกล่าวในการดำเนินธุรกิจต่อไป ทั้งนี้ จะมีระยะเวลาการเช่า 12 ปี รวมเป็นเงินประมาณ 52,000 - 68,000 ล้านบาท

อีกทั้งอนุมัติให้บริษัท ทำการจองซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนฯเป็นจำนวนหนึ่งในสามของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมด และอนุมัติให้นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือบุคคลที่ไดรับมอบหมายจากนายพิชญ์ มีอำนาจดำเนินการใดๆที่จำเป็นหรือเกี่ยวเนื่องตลอดจนกำหนดหรือเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดเงื่อนไขรวมถึงรายละเอียดใดๆที่เกี่ยวเนื่องและเป็นประโยชน์สำหรับการเข้าทำธุรกรรมกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน

นายพิชญ์ กล่าวว่า การขายทรัพย์สินเข้ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน เป็นโอกาสให้ JAS ก้าวเหนือคู่แข่ง และบริษัทมีเป้าหมายเป็นอันดับ 1 ในตลาดบรอดแบนด์ จากปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 2 ซึ่งขึ้นมาจากอันดับ 3 ตามหลัง บมจ.ทีโอที และ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE)

ขณะที่บริษัทได้กลับไปเช่าทรัพย์สินที่ขายเข้ากองทุนฯ บริษัทมองว่าเป็นการจ่ายค่าเช่าที่ค่อนข้างคุ้มค่า เพราะบริษัทจะมีรายได้เติบโตต่อเนื่อง จากการเติบโตของยอดผู้ใช้บริการบรอดแบนด์ ที่คาดว่าในปีนี้จะเพิ่มได้จำนวน 2.2 แสนราย เป็นประมาณ 1.5 ล้านราย และปี 57 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาอีก 3 แสนราย และคาดว่าในปี 57 รายได้จะเติบโต 20-25% ซึ่งขยายตัวต่อเนื่องจากปีนี้ที่คาดว่าเติบโต 25% ได้ตามเป้า และคาดว่าปีนี้จะมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จำนวน 6 พันล้านบาท สูงกว่าปีก่อนที่มี EBITDA 4.5 พันล้านบาท

ทั้งนี้เงินสดที่ได้รับการขายทรัพย์สินเข้ากองทุนฯ ส่วนหนึ่งไปจ่ายหนี้สถาบัน จะทำให้ลดสัดส่วนหนี้สินลงได้ และทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น ส่วนกำไรจากการขายทรัพย์สินเข้ากองทุนฯ ยังระบุไม่ได้ชัดเจน เพราะต้องรอผู้ตรวจสอบบัญชีว่าจะให้ทยอยบันทึกำไรกี่ปี อย่างไรก็ดี เมื่อมีกำไรพิเศษ ก็มีโอกาสที่บริษัทจะจ่ายเงินปันผลพิเศษ

"เงินที่ได้จากการขายทรัพย์สินเข้ากองทุนฯ จะทำให้เรามีโอกาสก้าวเหนือกว่าคู่แข่ง รายได้เราเติบโตต่อเนื่อง ตอนนี้ Net add (ลูกค้าบรอดแบนด์) เข้าเดือนละ 2 หมื่นราย อีก 3-4 ปีข้างหน้า เรายได้บรอดแบนด์โตต่อเนื่อง และที่สำคัญ balance sheet บริษัทแข็งแรง"

หลังจากนี้ บริษัทจะยื่นเอกสารขออนุม้ติจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานสำหรับธุรกิจบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และคาดว่าจะได้รับอนุมัติและจำหน่ายหน่วยลงทุนได้ราวต้นปี 57 หรือ ม.ค.-ก.พ.57

นายพิชญ์ กล่าวว่า กรณีที่ศาลฎีกากลับคำพิพากษาโดยยกเลิกคำสั่งฟื้นฟูกิจการของศาลล้มละลายไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน เพราะทรัพย์สินที่ขายเข้ากองทุนฯ เป็นทรัพย์สินที่เกิดหลังจากศาลได้ยกเลิกแผนฟื้นฟู 14 ก.ย.49 จึงไม่เกี่ยวกับกรณีนี้

*แจงศาลฎีกายกเลิกคำสั่งฟื้นฟูรอเจ้าหนี้มาแสดงตัว

นายวีระวงศ์ จิตต์มิตรภาพ จากบริษัท วีระวงศ์, ชินวัตร และ เพียงพนอ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษากฎหมาย ชี้แจงกรณีที่ศาลฎีกายกเลิกคำสั่งฟื้นฟูกจิการของศาลล้มละลายเมื่อ 7 ส.ค. 46 นั้น ว่า คำพิพากษาดังกล่าวยอมรับว่าเป็นเรื่องใหม่มาก ดูตัวบทกฎหมายไม่ชัดเจน และยังไม่ชัดเจนเรื่องของอายุความด้วยซึ่งการนับอายุความก็ต้องตีความว่า จะเริ่มนับอายุความตั้งแต่ช่วงไหน ได้แก่ ช่วงที่ได้รับคำสั่งยกเลิกกระบวนการฟื้นฟูกิจการ เมื่อ 14 ก.ย. 49 หรือ นับจากที่ได้รับคำสั่งให้ยกเลิกคำสั่งฟื้นฟู เมื่อ 19 ส.ค. 56

ฉะนั้น ขณะนี้บริษัทจึงไม่ต้องชำระหนี้ใดๆ รวมดอกเบี้ยด้วย เพราะยังมีความไม่แน่นอน ขณะเดียวกันบริษัทก็ยังไม่มีการตั้งสำรอง และยังไม่รู้ว่าดอกเบี้ยที่จะต้องมาคำนวณเริ่มนับจากช่วงเวลาไหน และมูลหนี้ที่แปลงจากเงินสกุลต่างประเทศเป็นเงินบาท ใช้อัตราแลกเปลี่ยนที่เท่าไร โดยหนี้ของเจ้าหนี้กลุ่มที่ 3 ที่ส่งเรื่องไปศาลฎีกา นั้นมีหนี้อยู่จำนวน 3,657 ล้านบาท ซึ่งใช้อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน (30-31 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ) จากก่อนหน้าบริษัทได้จ่ายหนี้เงินต้น 1,343 ล้านบาท และหุ้นที่แปลงหนี้เป็นทุน โดนช่วงเวลานั้นได้ใช้อัตราแลกเปลี่ยน 42 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ เจ้าหนี้กลุ่มที่ 3 จากทั้งหมด 8 กลุ่มได้ยื่นเรื่องเข้าไปศาลฎีกา เมื่อศาลฎีการะบุไม่เห็นด้วยประเด็นการจัดกลุ่มเจ้าหนี้ มีผลให้การฟื้นฟูจะถูกฉีกทิ้ง หลังจากที่บริษัทออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ เมื่อ 14 ก.ย.49 ดังนั้น บริษัทจะรอให้เจ้าหนี้แสดงข้อเท็จจริงและแสดงหลักฐาน หากบริษัทไม่เชื่อว่าเป็นเจ้าหนี้จริงหรือไม่ จำนวนหนี้เท่าไรก็จะเกิดเป็นคดีที่ศาลแพ่งใหม่ก็คือต้องเริ่มต้นใหม่เสมือนไม่ได้ผ่านการฟื้นฟูกิจการ

"กฎหมายไม่ได้เขียนระบุว่าเรื่องนี้มีอายุความเท่าไร เรื่องนี้ต้องกลับไปสู้กันใหม่ในศาลแพ่งจนไปถึงศาลฎีกา การตีความของกฎหมายที่ให้ความยุติธรรมทั้ง 2 ฝ่าย เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย"นายวีระวงศ์กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ