ขณะที่ในปีนี้ คาดว่ารายได้จะอยู่ที่ 5% ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 20% จากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัว ทำให้ลูกค้าของบริษัทฯในกลุ่มบรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นมีคำสั่งซื้อสินค้าลดลง ประกอบกับกลุ่มอุตสาหกรรมยายนต์ที่มีความล่าช้าของงานโมเดลชิ้นส่วนรถยนต์รุ่นใหม่ ในส่วนกำไรปีนี้คาดว่าอาจจะออกมาไม่ดีนัก จากที่บริษัทฯจะเน้นการบริหารจัดการต้นทุนให้ต่ำลง ประกอบกับการลงทุนในปี 57 จะไม่มากเท่าในปีนี้
กลยุทธ์ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ต่อเนื่องถึงปีหน้าว่าบริษัทฯ จะเน้นการเติบโตโดยเพิ่มยอดขายในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ เพื่อใช้กำลังการผลิตส่วนเกินที่เหลืออยู่เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการลงทุนตามเป้าหมายที่วางไว้
นอกจากนี้ยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการเพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าให้ดียิ่งๆ ขึ้น สู่ความเป็นผู้นำทางธุรกิจ โดยมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่สู่ตลาดซึ่ง PJW มีจุดแข็งด้านทีมวิจัยและพัฒนา ในการสร้างความแตกต่างและมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้าโดยเตรียมความพร้อมบุคลากรทั้งในด้านเทคนิคการผลิต (Production Technician) และความรู้ความเข้าใจในความหลากหลายทางวัฒนธรรม (Cross Cultural)เพื่อเพิ่มศักยภาพ รองรับการแข่งขันที่จะมีมากขึ้น โดยเฉพาะภายหลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC) ปี 2558
"ยอดขายทั้งในด้านบรรจุภัณฑ์พลาสติกบรรจุน้ำมันหล่อลื่น นมและนมเปรี้ยว สินค้าอุปโภคบริโภค สารเคมีสำหรับการเกษตรและยานยนต์มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นตามประมาณการยอดขายของลูกค้าทั้งส่วนของลูกค้าเก่าที่มีแผนขยายกำลังการผลิต และลูกค้าใหม่ซึ่งอยู่ระหว่างพัฒนาและทดสอบผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อออกขายในปี 2557-2558 ซึ่งจะช่วยผลักดันผลดำเนินงานบริษัทฯ ให้มีทิศทางดีขึ้นตามไปด้วย" นายวิวรรธน์ กล่าว
นอกจากนี้ ในปีหน้าคาดว่าจะมีออเดอร์ใหม่จากลูกค้าเข้ามามากขึ้นทั้งในส่วนของสินค้าอุปโภคบริโภค นม เคมี และยานยนต์ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการลงทุนทั้งในด้านอาคารโรงงาน เครื่องจักร อุปกรณ์จากก่อนหน้านี้ได้รับออเดอร์ใหม่ด้านยานยนต์ ซึ่งเป็นโมเดลใหม่ กำหนดออกสู่ตลาดช่วงปี 2557-2558 และยอดขายจากโรงพ่นสี ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่
"งานโมเดลชิ้นส่วนรถยนต์ที่ได้รับมาใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเติบโตราว 30% จากปีนี้ โดยจะมีการรับรู้รายได้ล็อตแรกในช่วงกลางปี 57 ราว 50 ล้านบาท และในปี 58 จะรับรู้รายได้อีก 200 ล้านบาท"
นายวิวรรธน์ กล่าวว่า ในปี 57 บริษัทฯตั้งงบลงทุนไว้ที่ 200 ล้านบาท โดยจะมีการลงทุนน้อยกว่า ปี 56 และเน้นการลงทุนส่วนใหญ่ในประเทศไทย และการงลงทุนในประเทศจีนราว 50 ล้านบาทเพื่อใช้ในการเพิ่มกำลังการผลิต ซื้อเครื่องจักร และปรับปรุงอาคารโรงงาน
"การลงทุนในปี 57 เราจะมีการลงทุนให้มีความระมัดระวังมากขึ้น และจะบริหารจัดการต้นทุนให้ดีไม่สูงมาก โดยเราจะไม่มีการลงทุนไว้ล่วงหน้าเหมือนในปีนี้ เราจะมีการลงทุนก็ต่อเมื่อมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างแน่นอน ซึ่งจะส่งผลให้กำไรของเราในปีหน้าน่าจะสูงกว่าปีนี้ ที่อาจจะออกมาไม่ดีนัก"นายวิวรรธน์ กล่าว
ส่วนรายได้จากต่างประเทศ คาดว่าในปีนี้จะมีรายได้จากประเทศจีนราว 150 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 20-30% ส่วนปี 57 คาดว่าจะมีการเติบโตราว 20-30 % หรือที่ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งมาจากยอดขายสินค้าบรรจุภัณฑ์นมและน้ำยาปรับผ้านุ่มและการต่อสัญญากับบริษัท เชฟรอน ที่ประเทศจีน ในการผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น