บลจ.ธนชาตคลอดกองทุนเปิดT-GlobalEQRMF เน้นลงทุนหุ้นทั่วโลก

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 27, 2013 10:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ธนชาต เปิดเผยว่า บลจ.ธนชาต ออกกองทุนเปิดธนชาต Global Equity เพื่อการเลี้ยงชีพ(T-GlobalEQRMF)เป็นกองทุนรวม RMF ที่เน้นลงทุนกองทุนตราสารทุนต่างประเทศและกองทุนรวม ETF ตราสารทุนต่างประเทศ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เริ่ม IPO ระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน - 11 ธันวาคม 2556 ขนาดกองทุน 1,000 ล้านบาท
"กองทุน T-GlobalEQRMF เป็นกองทุนที่สร้างโอกาสการลงทุนในตลาดหุ้นได้ทั่วโลก สามารถจัดสรรน้ำหนักการลงทุนอย่างยืดหยุ่น ลงทุนได้ทั้งกองทุนที่ลงทุนทั่วโลก กองทุนที่ลงทุนเป็นกลุ่มภูมิภาค กองทุนที่ลงทุนในกลุ่มประเทศหรือรายประเทศ รวมไปถึงรายกลุ่มธุรกิจ การจัดสรรน้ำหนักลงทุนที่มีความยืดหยุ่นและสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างคล่องตัว ถือเป็นจุดเด่นของกองทุนเพื่อสามารถสร้างโอกาสหรือลดความเสี่ยงจากการลงทุนเพื่อให้เหมาะสมกับสภาวะการลงทุนที่เปลี่ยนแปลงตลอด โดยให้มีการกระจายความเสี่ยงที่ดี และบลจ.ธนชาต เป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญการลงทุนต่างประเทศประเภท Fund of Fund ที่มีประสบการณ์ในการคัดสรรผู้จัดการกองทุนต่างประเทศมาแล้ว 7 ปี จึงมั่นใจว่ากองทุน T-Global EQRMF จะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ลงทุนที่ประสงค์จะกระจายการลงทุนไปในหุ้นต่างประเทศเพื่อการลงทุนระยะยาว"

ทั้งนี้ จากการที่ภาวะเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น ที่ปรับตัวดีขึ้นพร้อมๆ กัน โดยเป็นการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปโดยมาจากหลายภูมิภาค ขณะที่ประเทศกำลังพัฒนานำโดยเศรษฐกิจจีนเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจว่าเศรษฐกิจจีนยังสามารถเติบโตได้ในระดับ 7-7.5% ตามเป้าหมายที่วางไว้ ช่วยให้แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในระยะถัดไปดูมีเสถียรภาพมากขึ้น คาดว่าการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเช่นหุ้นจึงน่าสนใจลงทุนและมีแนวโน้มที่ดีขึ้นในระยะ 1-3 ปีข้างหน้า

ในภาวะที่การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเช่นหุ้นมีแนวโน้มดีขึ้น แต่ผลตอบแทนจากการลงทุนในสินทรัพย์มั่นคงเช่นตราสารหนี้กลับให้ผลตอบแทนที่ต่ำ และในอนาคตอัตราดอกเบี้ยโลกมีแนวโน้มจะค่อยๆ ปรับตัวสูงขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ในภาวะเช่นนี้ผลตอบแทนจากการลงทุนในสินทรัพย์มั่นคงเช่นตราสารหนี้ จะให้ผลตอบแทนที่ต่ำและมีความเสี่ยงจากความผันผวนที่มากขึ้น คาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนเคลื่อนย้ายจากตลาดตราสารหนี้ไปสู่การลงทุนในหุ้นมากขึ้น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของการลงทุนในหุ้นต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ