ติดตามสถานการณ์ทางการเมืองนอกสภาที่ทวีความร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มต่อต้านระบอบทักษิณที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นแกนนำฯ จะเคลื่อนไหวกลุ่มผู้ชุมนุมไปศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ, กองทัพธรรมไปกระทรวงพลังงานและบมจ.ปตท. ส่วนที่เหลือกลุ่มผู้ชุมนุมเวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยจะแบ่งมวลชนไปปิดล้อมกระทรวงต่างๆ ที่เหลือ หลังจากก่อนหน้านี้ได้ปิดล้อมพื้นที่เป้าหมายไปแล้ว 6 แห่ง คือ สำนักงบประมาณ, กระทรวงการคลัง, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, กระทรวงคมนาคม, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงมหาดไทย
นอกจากนี้ ยังมีอีก 14 กระทรวงที่เป็นเป้าหมายวันนี้ ประกอบด้วย 1.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2.กระทรวงวัฒนธรรม 3.กระทรวงการต่างประเทศ 4.กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ 5.กระทรวงอุตสาหกรรม
6.กระทรวงแรงงาน 7.กระทรวงการพัฒนาและความมั่นคงของมนุษย์ 8.กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) 9.กระทรวงยุติธรรม 10.กระทรวงศึกษาธิการ 11.กระทรวงพาณิชย์ 12.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 13.กระทรวงสาธารณสุข และ 14.กระทรวงพลังงาน
- ขณะที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นำแกนนำแถลงจุดยืน นปช. หลังจากที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ชุมนุมต่อต้านระบอบทักษิณ ประกาศ 6 ข้อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยหลังขจัดระบอบทักษิณว่า ยืนยันว่ายังไม่เคลื่อนกำลังไปณ จุดอื่นจุดใด จะมีการเคลื่อนมีเหตุผลเดียวคือ รัฐประหาร มีการจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร มีการจัดตั้งรัฐบาลที่ไม่ได้เป็นไปตามประชาธิปไตย ตอนนี้ให้เป็นหน้าที่ของศอ.รส. อย่าเพิ่งหงุดหงิดใจ ถ้าพวกที่ดูโทรทัศน์เห็นบุกยึดที่นั่นที่นี่ทนไม่ได้ ให้มาที่ราชมังคลาฯ จะได้รวมพลังกันอย่างสันติวิธี สิ่งที่มันกล่าวหาเสื้อแดงทั้งหมดวันนี้มันทำมากกว่า เพราะฉะนั้น ผมยืนยันว่าสุเทพเหมือนตายทั้งเป็น และเหตุการณ์จะจบลงใน 1-2 วันนี้ และจะต้องจบลง ถ้าสุเทพไม่ตาย ก็ต้องถูกจับคุก
- ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจฯ เมื่อวานนี้ พรรคประชาธิปัตย์ส่งขุนพลฝีปากกล้าเปิดโปงข้อมูลความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลจนถึงเวลา 01.30 น.ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้สั่งปิดประชุม และนัดให้มีการประชุมต่อในวันนี้อีกเป็นวันที่สอง ซึ่งได้เข้าสู่การอภิปรายแล้ว โดย น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายถึงการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว
- นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออกในเดือน ต.ค.56 ซึ่งต้องตามดูว่าจะมีอัตราการเติบโตเพียงพอที่จะทำให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้หรือไม่
- คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) ซึ่งประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.), สภาหอการค้าไทย และสมาคมธนาคารไทย จะมีการประชุมหารือเพื่อประเมินผลกระทบจากสถานการณ์ทางกากรเมือง โดยยกเลิกการประชุมร่วมกับสภาธุรกิจท่องเที่ยว สภาธุรกิจตลาดทุน และสมาคมบริษัทจดทะเบียน
- การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) นัดสุดท้ายของปีนี้ คงต้องจับตาดูว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 2.50 ตามเดิมหรือไม่ หลังจากดัชนีเศรษฐกิจสำคัญทั้งกำลังซื้อ การบริโภค การลงทุน การผลิตการส่งออกทรุดตัวอย่างหนักแล้วที่ประชุมฯ จะตัดสินใจอย่างไร
- กสทช.แถลงข่าว "การประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันในการกำกับดูแลกันเองในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์" ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัล ลาดพร้าว
- ผู้บริหาร บมจ.ณุศาศิริ(NUSA) แถลงข่าวเกี่ยวกับ "สรุปภาพรวมการดำเนินงานในปี 2556 และแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจในปี 2557" ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพ
- ธนาคารกรุงเทพ จัดงานเสวนานุกรมความรู้เรื่อง "จัดทัพ-ปรับทิศ รับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจของจีน" ณ ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ ถนนสีลม
- สวทช. ร่วมกับซิป้า และ บมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่น(SAMART) แถลงข่าวโครงการ "เถ้าแก่น้อยเทคโนโลยี 2013" ณ โรงแรมดิโอกุระ