ทั้งนี้ ประมาณการกระแสเงินสดที่กองทุน TRUEGIF ได้รับขั้นต่ำ 5,357.5 ล้านบาท ที่สามารถรนำไปเป็นเงินแบ่งปันส่วนกำไรแ ก่ผู้ถือหน่วย และมีสิทธิปรับขึ้นค่าเช่าได้ทุกปีตามอัตราเงินเฟ้อ โดยมีการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 90% โดยคาดว่าจะจ่ายเงินปันผลทุกไตรมาส
แหล่งรายได้ของกองทุนมาจากสัญญาโอนขายทรัพย์สินและสิทธิรายได้ระยะยาว 12 ปีในการรับรายได้ต่อจากบมจ.กสท โทรคมนาคม ผ่านกลุ่มทรู (บริษัท บีเอฟเคที(ประเทศไทย)และบริษัท เอเชียไวร์เลส คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (AWC))และสิทธิในการซื้อทรัพย์สินและการได้รับโอนทรัพย์สินเมื่อจบสัญญาเช่าเครื่องและอุปกรณ์ HSPA กับ กสท.หรือสัญญาเช่าเสาโทรคมนาคมกับ AWC ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มทรู และ TRUEGIF สามารถให้เช่าแก่รายอื่นได้ รวมทั้งรายได้สัญญาเช่า ดำเนินการบำรุงรักษาและบริหารจัดการระยะยาวนาน 13 ปีกับกลุ่มทรูผ่านบริษัท เรียลฟิวเจอร์ จำกัด และ บริษัท ทรู ยูนิเวอร์แซล คอนเวอร์เจ้นทซ์ จำกัด(TUC)
นายนพปฎล เดชอุดม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น(TRUE)กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะรับรู้รายได้จาการสินทรัพย์เข้ากองทุน TRUEGIF จำนวน 6-8 หมื่นล้านบาท โดยจะนำเงินสัดส่วนมากกว่า 50% ไปใช้หนี้ และนำไปลงทุนสร้างเสาโทรคมนาคม 6,000 เสาบนคลื่น 2.1 GHz รวมทั้งนำไปเป็นเงินทุนหมุนเวียน
"หลังจัดตั้งกองทุนเป็นเรื่องสำคัญกับ TRUE ที่จะปรับปรุงโครงสร้างทุนให้เข้มแข็ง รองรับโอกาสทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้นได้อย่างสบาย...เรามีหนี้เยอะ เมื่อเราลดหนี้ แต่สินทร้พย์ไม่ได้ลด แต่จะทำให้ส่วนผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นโดยปริยาย"นายนพปฎล กล่าว
การขายทรัพย์สินให้แก่ TRUEGIF จะทำให้ฐานะการเงินของ TRUE แข็งแกร่งอย่างมีนัยสำคัญ โดยหนี้สินสุทธิ ณ ก.ย.56 มีหนี้ 105.7 พันลบ.ลดลงเป็น 49.2 พันล้านบาท ซึ่งทรูจะนำเงินที่ได้บางส่วนจากการระดมทุนไปชำระหนี้และนำไปเป็นเงินทุนหมุนเวียนบริษัท
TRUEGIF ลงทุนทรัพย์สินครั้งแรกได้แก่ เสาโทรคมนาคม จำนวน 11,845 เสา(สิทธิในการรับประโยชน์จากรายได้สุทธิ จำนวน 5,845 เสา และกรรมสิทธิ์ในเสา จำนวน 6,000 เสา),ระบบใยแก้วนำแสงและอุปกรณ์ ระบบสื่อสัญญาณที่เกี่ยวข้อง(FOC)จำนวน 9169 ลิงค์ และใยแก้วนำแสงความยาว 52,362 กม.หรือ 803,090 คอร์กิโลเมตร และระบบบรอดในเขตพื้นที่ต่างจังหวัด จำนวน 1.2 ล้านพอร์ตเป็นการซื้อกรรมสิทธิ์
นายนพปฎล กล่าวว่า การขายสินทรัพย์ของกลุ่มทรูเข้ากองทุน TRUEGIF ไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจของกลุ่มทรู และโอเปอเรเตอร์รายอื่น ได้แก่ เอไอเอส ดีแทค ก็สามารถเข้ามาเช่าใช้จากกองทุน TRUEGIF ได้ และได้อัตราการเช่าเช่นเดียวกับ TRUE โดย TRUE 0tเช่าใช้ 60% ของ Capacity ที่เหลือ กองทุน TRUEGIF นำไปให้รายอื่นเช่าได้
ขณะเดียวกันระบบและอุปกรณ์ของมือถือทั้ง 3G และ LTE 4G กลุ่มทรู ไม่ได้ขายเข้ากองทุน TRUEGIF เพราะมีความเสี่ยงเทคโนโลยีจะล้าสมัยได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกองทุนได้ ส่วนเสาโทรคมนาคมของบริษัท ทรูมูฟ จำกัด ประมาณ 5,000-6,000 เสา ที่ยังมีกรณีพิพาทกับบมจ.กสท โทรคมนาคม บริษัทก็ไม่ได้เข้ามารวมในกองทุนนี้ แต่หากต่อมามีคำสั่งศาลเป็นบวกกับบริษัท ก็มีโอกาสที่ทรูจะนำมาขายให้แก่กองทุน TRUEGIF
นายนพปฎล กล่าวว่า การเสนอขายหน่วยลงทุนกองทุน TRUEGIF จะส่วนใหญ่จะเน้นขายในประเทศทั้งในส่วนนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน ซึ่งเป็นกลุ่มที่รู้จักแบรนด์"TRUE"ดีอยู่แล้ว ส่วนที่เหลือจะเสนอขายให้แก่นักลงทุนสถาบันในต่างประเทศ
ด้านนายอาทิตย์ นันทวิทยา รองผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า จากการไปโรดโชว์ให้แก่นักลงทุนในต่างประเทศได้รับการตอบรับที่ดีมากเพราะกองทุนมีโอกาสเติบโต อย่างไรก็ดี คาดว่าสัดส่วนการเสนอขายกับนักลทุนในประเทศค่อนข้างมากกว่านักลงทุนต่างประเทศ แม้จะมีดีมานด์มากในต่างประเทศ เพราะในช่วงเวลานี้ความเชื่อมั่นในประเทศดีกว่าในต่างประเทศ