(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งตัว ต่างชาติยังขายหนัก-การเมืองยังกดดันตลาดฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 28, 2013 09:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชียพลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัว โดยตลาดฯคงได้ปัจจัยบวกจากที่กนง.ลดดอกเบี้ย ซึ่งสร้าง Surprise ให้กับตลาดฯ ทำให้หุ้นในกลุ่ม property อาจจะถูกไล่ขึ้นมา แต่แรงก็คงจะไม่มากเท่าไร

ขณะที่ตลาดฯมีปัจจัยลบจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่ยังมากอยู่ และปัจจัยการเมืองที่ยังคงกดดันตลาดฯอยู่ในณะนี้ ดังนั้นช่วงนี้ยังไม่อยากให้เข้าลงทุน ให้ Wait & See ไว้ก่อน

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก เช่นเดียวกับดาวโจนส์ที่ยังปรับตัวขึ้น ซึ่งปัจจัยนอกประเทศเวลานี้ไม่ได้มีอะไร

พร้อมให้แนวรับ 1,350 จุด แนวต้าน 1,380 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(27 พ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,097.33 จุด เพิ่มขึ้น 24.53 จุด(+0.15%) ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,807.23 จุด เพิ่มขึ้น 4.48 จุด (+0.25%) ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,044.75 จุด เพิ่มขึ้น 27.00 จุด(+0.67%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 172.56 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 24.77 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 10.92 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 6.67 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.42 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ ไม่เปลี่ยนแปลง, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 128.59 จุด,ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.31 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.80 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 12.71 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(27 พ.ย.)ที่ 1,373.11 จุด เพิ่มขึ้น 14.42 จุด(+1.06%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 4,379.88 ล้านบาท เมื่อ 27 พ.ย.56
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(27 พ.ย.)ที่ 92.30 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.38 ดอลลาร์ฯ
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(27 พ.ย.)ที่ 3.53 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.15/17 คาดอ่อนค่าต่อ การเมือง-กนง.ลดดอกเบี้ยกดดัน
  • กนง.ช็อกตลาดเงิน หั่นดอกเบี้ย 0.25% เหลือ 2.25% หลังเศรษฐกิจไตรมาส 3 โตต่ำสัญญาณฟื้นตัวไม่ชัด ระบุการเมืองกระทบความเชื่อมั่น เล็งหั่นจีดีพีต่ำกว่า3% หากการเมืองรุนแรง ด้านนักเศรษฐศาสตร์รับผิดคาด เชื่อกนง.ให้น้ำหนักปัจจัยระยะสั้น ห่วงหมดเครื่องมือรับวิกฤติในอนาคต บาทอ่อนค่ารอบ 3 เดือน ขณะแบงก์กรุงเทพ-กสิกร จ่อลดดอกเบี้ยตาม
  • น.ส.อุรวี เงารุ่งเรือง รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกสินค้าไทยเดือน ต.ค. 2556 มีมูลค่า 1.93 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐลดลง 0.67% เทียบกับเดือน ต.ค. 2555 ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 2.11 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐลดลง 5.37% ส่งผลให้ไทยขาดดุลการค้าเดือนต.ค. มูลค่า 1,770 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 30 (มอเตอร์เอ็กซ์โป) เปิดเผยว่า สถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองที่มีการเคลื่อนขบวนพาผู้ชุมนุมเดินทางไปยังศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ซึ่งใกล้เคียงกับบริเวณการจัดงานที่เมืองทองธานี โดยส่วนตัวมีความเป็นห่วงว่าจะกระทบต่อการซื้อ-ขายรถยนต์ในงานอยู่บ้าง
  • คลังเผย 9 เดือนแรกแบงก์รัฐกำไร 1.9 แสน ล้านบาท ขณะที่มียอดหนี้เสีย 2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พร้อมจับตาเอสเอ็มอีแบงก์ปล่อย สินเชื่อแฟคเตอร์ริ่งที่ผิดวัตถุประสงค์ ล่าสุดมีโรงสีนำใบประทวนในโครงการจำนำข้าว เข้าขอสินเชื่อกว่า 5 พันล้านบาท
  • นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทปิดตลาดเมื่อวันที่ 27 พ.ย. อยู่ที่ระดับ 32.15-32.16 บาท/เหรียญสหรัฐ อ่อนค่าลงจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.08-32.10 บาท/เหรียญสหรัฐ โดยตลอดช่วงเช้าจนถึงบ่ายค่อนข้างแกว่งแคบๆ แต่หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ลงเหลือ 2.25% จึงทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงต่อ เพราะถือว่าเซอร์ไพรส์ตลาด

*หุ้นเด่นวันนี้

  • BJCHI(บมจ.บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี)เข้าซื้อขายวันนี้ โดยมีราคาขาย IPO 30 บาท/หุ้น บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินราคาเหมาะสมปี 2014 ที่ 41 บาท อิง PE 12 เท่า และคาดกำไรสุทธิปี 2014 ที่ 1,087 (+16% Y-Y) อย่างไรก็ตาม บริษัทรายงานผลประกอบการ 9M13 มีกำไร 952 ล้านบาท +71% Y-Y มากกว่ากำไรทั้งปีที่คาด(934 ล้านบาท) จากอัตรากำไรขั้นต้นใน 3Q13 ที่สูงกว่าระดับปกติ(52% เทียบกับปกติที่ 30-35%)โดยไม่แน่ใจว่าจะรักษาระดับได้ จึงยังไม่ปรับประมาณการจนกว่าจะได้ข้อมูลเพิ่มจากผู้บริหาร
  • PS (เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 28.70 บาท แม้ราคาหุ้นในกลุ่มที่อยู่อาศัยวานนี้จะได้รับปัจจัยหนุนในเชิง Sentiment จากการที่ กนง.มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายลง แต่ยังคงให้ PS เป็นหุ้นที่เด่นที่สุดในกลุ่ม โดยประเมินกำไรสุทธิใน 4Q56 ไว้ที่ 1.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจาก 1.3 พันล้านบาทใน 3Q56 โดยที่หลักๆจะมาจากการบันทึกรายได้จากโครงการ Plum-ลาดพร้าว 101 และ Condolette Light Convent เข้ามาราว 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้กำไรสุทธิปี 2556 อยู่ที่ 5.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% YoY และในปี 2557 คาดบริษัทจะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอีก 8% YoY มาอยู่ที่ 5.5 พันล้านบาท
  • STEC(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 29 บาท แม้ว่าความไม่ชัดเจนทางการเมือง และ พ.ร.บ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาทจะกดดันราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมา แต่เรามองพื้นฐานของ STEC ยังคงแข็งแกร่งแม้ว่าจะไม่มีตัวช่วยอย่างการลงทุนผ่าน พ.ร.บ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาทก็ตาม สะท้อนออกมาจากงานในมือปัจจุบันที่ราว 5.6 หมื่นล้านบาท สามารถเป็นฐานต่อรายได้ของ STEC ในอนาคต 1-2 ปี ข้างหน้าได้อย่างสบาย นอกจากนี้จุดเด่นของ STEC ยังอยู่ที่ระดับอัตรากำไรสุทธิไว้ที่สูงราว 5-6% และสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งเป็น Net Cash
  • TASCO(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 90 บาท คาดว่าธุรกิจยางมะตอยจะขยายตัวต่อเนื่องจากแรงหนุนของตลาดในประเทศ และต่างประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย และออสเตรเลีย ซึ่งส่งผลบวกโดยตรงต่อ TASCO เนื่องจากเป็นผู้นำธุรกิจอันดับหนึ่งของ ASEAN แนวโน้มผลประกอบการ 4Q56 คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่อง qoq ตามยอดขายที่ปรับตัวสูงขึ้นทั้งในและต่างประเทศ โดยคาดว่ากำไรสุทธิปี 2556 จะเติบโตสูง +77% yoy เป็น 1,133 ล้านบาท และ +6.3% yoy เป็น 1,204 ล้านบาทในปี 2557
  • BLAND(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)เป้า 2.80 บาท การลดดอกเบี้ยของกนง.ลงวานนี้ -0.25% เหลือ 2.25% จะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อบริษัทที่มีแผนขายกองทุนขนาดใหญ่ ทั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (IFF) และกองทุนทรัสต์เพื่อการลงทุน (REIT)เนื่องจากจะส่งผลให้ Yield มีความน่าสนใจมากขึ้น และคาดว่ากลต.จะอนุมัติ Filing กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์(REIT)ของบริษัทได้ทันในปีนี้ และเปิดให้จองซื้อหน่วยลงทุน เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลท.ได้ใน 1Q57 เบื้องต้นคาดว่า BLAND จะมีกำไรพิเศษจากการจัดตั้ง REIT ราว 2,800-3,000 ล้านบาท บนสมมติฐานขนาดกองทุนที่ 1.95-2.0 หมื่นล้านบาท และได้เงินสดสุทธิเพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนเข้ามาถึง 8,000 ล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ