สำหรับแนวโน้มในไตรมาส 4/56 ยอดการผลิตรถยนต์จะหดตัวลงจากไตรมาส 3/56 ราว 5-6% ซึ่งจะกระทบต่อยอดขายของบริษัทฯประมาณ 2-3% ซึ่งได้รับปัจจัยจากการชะลอตัวของการบริโภค ประกอบกับนโยบายรถยนต์คันแรกหมดไป
"ปีนี้ที่อุตสาหกรรมรถยนต์ ชะลอตัวลง จากที่การบริโภคภายในประเทศชะลอตัว ประกอบกับ นโยบายรถยนต์คันแรกหมดลง ทำให้ช่วงนี้อยู่ในช่วงของการปรับฐานให้กับสู่ภาวะปกติ" น.ส.นภัสร กล่าว
ส่วนในปี 57 บริษัทฯ คาดว่ารายได้จะใกล้เคียงกับปีนี้ แต่บริษัทจะเน้นการรักษาอัตรากำไรสุทธิให้อยู่ในระดับ 7-8% โดยในปี 57 บริษัทจะมีการบริหารต้นทุนให้ดีขึ้น ประกอบกับบริษัทฯจะมีสัดส่วนรายได้จากเครื่องยนต์การเกษต จาก บริษัท สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด มากขึ้นเป็น 20% หรือ 8 หมื่นคัน/ปี จากปีนี้ที่ 15% หรือ 6.4 หมื่นคัน/ปี
"ปีนี้เรายังมองว่าอุตสาหกรรมรถยนต์น่าจะยังชะลอตัวจนถึงช่วงกลางปีหน้า โดยเฉพาะปิคอัพที่ปี 57 น่าจะยังชะลอตัวจากปีนี้อีก 5% แต่ในช่วงครึ่งปีหลังก็น่าจะปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับบริษัทฯจะมีสัดส่วนรายได้มาจาก เครื่องยนต์ทางการเกษตรมากขึ้น จะทำให้ปีหน้าเรามีรายได้ใกล้เคียงปีนี้ได้"น.ส.นภัสร กล่าว
น.ส.นภัสร กล่าวต่อว่า บริษัทตั้งงบลงทุนสำหรับปี 57 ไว้ที่ 500-700 ล้านบาท เพื่อที่จะขยายกำลังการผลิต เพลาข้าง สำหรับรถบรรทุกขนาดกลางและขนาดใหญ่
สำหรับแผนการลงทุนในต่างประเทศต้องมีการชะลอออกไปก่อน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันยังไม่เอื้อต่อการลงทุน ซึ่งบริษัทฯจะเน้นการผลิตในประเทศเพื่อเน้นการส่งออกให้มากขึ้น โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการส่งออกให้มากกว่า 5% จากปีนี้ที่ 3-4%