นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ กรรมการผู้จัดการ BMCL คาดปีนี้บริษัทมีผลขาดทุนลดลงมาที่ประมาณ 800 ล้านบาทจากปีก่อนที่มีผลขาดทุน 981 ล้านบาท เนื่องจากรายได้เติบโตจากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น โดยช่วง peak ยอดผู้โดยสารสูงสุดที่ 3.3-3.4 แสนคน/วัน และแนวโน้มน่าจะเพิ่มขึ้นตามที่อยู่อาศัย คอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้าที่จะมีกลุ่มนี้เป็นผู้ใช้หลัก ขณะเดียวกันบริษัทจะนำเงินที่ขายหุ้นเพิ่มทุนไปชำระหนี้บางส่วนจะช่วยลดภาระดอกเบี้ยไปได้ 230-240 ล้านบาท/ปี
และบริษัทคาดว่าจะหยุดขาดทุนและเริ่มมีกำไรในปี 59 ก่อนที่จะเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งจะทำให้ยอดผู้โดยสารเติบโตเท่าตัว หลังจากนั้นบริษัทจะทยอยล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ราว 1 หมื่นล้านบาทให้หมดภายใน 4-5 ปี
แต่ช่วงระยะปี 57-59 ที่อยู่ระหว่างรอสายสีม่วงเปิดให้บริการ บริษัทจะเร่งหารายได้จากตั๋วโดยสารในช่วง Off Peak และรายได้อื่นได้แก่ รายได้จากพื้นที่โฆษณา และพื้นที่เชิงพาณิชย์ ที่คาดว่าจะทำรายได้ประมาณ 300 ล้านบาท เพิ่มจากปีนี้ที่คาดได้ 200 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทจะเปิดพื้นที่เชิงพาณิชย์เพิ่มเติม ได้แก่ สถานีศูนย์สิริกิติ์ และมีแนวคิดตั้งสำนักงานภายในรถไฟฟ้าใต้ดิน รวมทั้งจะจัดกิจกรรมต่อเนื่องเพื่อให้ประชาชนรู้จักมากขึ้น อาทิ การร่วมมือกับ Art in Paradise มาเปิดนิทรรศการรูปภาพภานในสถานีศูนย์วัฒนธรรมในไตรมาส 2/57 เป็นต้น
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า บริษัทเตรียมจะสั่งซื้อรถไฟฟ้าใหม่ จำนวน 26 ขบวนที่มีขบวนละ 3 ตู้ใช้วงเงินลงทุน 4 พันกว่าล้านบาท แบ่งเป็น 21ขบวนไว้รองรับการเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง และอีก 5 ขบวนรองรับการเดินรถในเส้นทางปัจจุบันซึ่งจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มเป็น 3.6 แสนคน/วัน จากปัจจุบันที่มีอยู่ 19 ขบวน รองรับเต็มที่ 3.4 แสนคน/วัน
ขณะที่แผนการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษา และมองว่า จังหวะตอนนี้ยังไม่ดี คาดว่าหลังเปิดให้บริการสายสีม่วงก่อนจึงน่าจะจังหวะดีที่จะจัดตั้งกองทุนดังกล่าว
สำหรับความคืบหน้าการเพิ่มทุน จำนวน 8.5 พันล้านหุ้น เท่าที่ได้รับรายงานมีทั้งผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้ถือหุ้นรายย่อยใช้สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน โดยเฉพาะบมจ.ช.การช่าง (CK) ผู้ถือหุ้นรายใหญ่พร้อมจะเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนเกินสิทธิ ขณะที่ บมจ.ทางด่วนกรุงเทพ(BECL)แจ้งจองซื้อตามสิทธิ์ ส่วนการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)ยังไม่ได้แจ้งมา แต่มั่นใจว่าสถานการณ์การเมืองขณะนี้จะไม่กระทบกับการดำเนินการเพิ่มทุน โดยภาวะตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นภูมิภาคยังไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ และยังกำหนดวันจองซื้อและชำระค่าหุ้นระหว่างวันที่ 9-16 ธ.ค.นี้
"แล้วแต่ใครจะซื้อตามสิทธิ หรือเกินสิทธิ แล้วแต่จะใช้สิทธิ...ไม่น่าจะมีปัญหาการเพิ่มทุน"นายชัยวัฒน์ กล่าว
ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ได้แก่ รฟม.ถือหุ้น 25% CK ถือ 16.64% และ BECL ถือ 10%
นายชัยวัฒน์ คาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 4/56 จะดีกว่าไตรมาส 4/55 ตามจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น 10% โดยในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมามีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 15-20% จากการชุมนุมทางการเมืองทำให้จราจรติดขัด ทำให้คนหันมาใช้บริการรถไฟฟ้าทั้งใต้ดินและลอยฟ้า และจากปริมาณรถเพิ่มมากขึ้นบนท้องถนนจากนโยบายรถคันแรก คนจำเป็นเดินทางให้ตรงต่อเวลา และจำนวนที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้าค่อนข้างมากทำให้มีจำนวนผู้โดยสารสูงขึ้นซึ่งเชื่อปีหน้าจะมีอสังหาฯเปิดมากขึ้นบริเวณใกล้รถไฟฟ้ามากขึ้น
นายสมบัติ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการร่วม บริษัท แบงคอก เมโทร เน็ทเวิร์คส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เปิดเผยว่า บริษัทเปิดตัวแหล่งช้อปปิ้งใหม่ Metro Nine บริเวณสถานีรถไฟฟ้า MRT พระรามเก้า อย่างเป็นทางการ ในวันนี้ บนพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 2,000 ตร.ม. มูลค่าการลงทุนกว่า 47 ล้านบาท ตั้งอยู่ทางเชื่อมระหว่างทางออกสถานีประตู 1 ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์และห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพระรามเก้า ซึ่งเป็นพื้นที่พัฒนาเชิงพาณิชย์ที่บริษัทเป็นผู้รับสิทธิการบริหารจัดการจาก BMCL
ในปัจจุบัน บริษัท เป็นผู้ได้รับสิทธิในการพัฒนาเชิงพาณิชย์พื้นที่ร้านค้าปลีกรวม 11 สถานี และให้เช่าพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมบนพื้นที่มากกว่า 15,000 ตารางเมตร โดยเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว 4 สถานี ได้แก่ สถานีสุขุมวิท สถานีพหลโยธิน สถานีสวนจตุจักร และสถานีกำแพงเพชร