(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งตัว เหตุกังวลการเมือง-จะมีชุมนุมใหญ่สุดสัปดาห์

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 29, 2013 09:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวอยู่ในกรอบจำกัด ทั้งแดนบวก-ลบ โดยมองว่าปัจจัยการเมืองในประเทศยังคงกดดันอยู่

แม้ว่าตลาดฯจะได้แรงหนุนจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% แต่สุดสัปดาห์นี้จะการชุมนุมใหญ่ของทั้ง 2 ฝ่าย ยังสร้างความกังวลให้กับนักลงทุน

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้มีการเคลื่อนไหวในแดนบวก-ลบสลับกัน ประมาณ 0.3%

พร้อมให้แนวรับ 1,345-1,350 จุด ส่วนแนวต้าน 1,365-1,370 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(28 พ.ย.)ปิดทำการวานนี้ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 65.69 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 11.71 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 0.92 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 8.10 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 0.82 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 73.29 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.25 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ ลดลง 5.09 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียเปิดวันนี้ ลดลง 13.66 จุด, ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามเปิดวันนี้ ลดลง 0.29 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(28 พ.ย.)ที่ 1,359.45 จุด ลดลง 13.66 จุด(-0.99%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 405.55 ล้านบาท เมื่อ 28 พ.ย.56
  • ตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(28 พ.ย.)เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(28 พ.ย.)ที่ 3.65 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.06/08 แกว่งตัวหลังการเมืองยังไม่มีความแน่นอน
  • ไทยพาณิชย์นำร่องหั่นดอกเบี้ยกู้ 0.10-0.25% เงินฝากลด 0.05-0.15% มีผลวันนี้ ขณะที่มอร์แกนสแตนเลย์ประเมินหากการเมืองแย่ลง กดดันธปท.ใช้นโยบายผ่อนคลายต่อเนื่อง ส่งผลสิ้นปี 57 บาทอ่อน 33.3 บาทต่อดอลลาร์ คาดประชุมกนง.ต้นปีหน้าจะตรึงดอกเบี้ยไว้ 2.25%
  • ค่ายรถรับปี 2557 ตลาดรถหดตัวต่อเนื่องคาดติดลบ 10% ปรับแผนผลิต การขายรองรับ เชื่อแผนกระตุ้นผ่านแคมเปญลดความรุนแรง หวั่นเข้าเนื้อ เร่งส่งสินค้าเจาะตลาดใหม่ รับกระแสโลก "ลดไซส์" ฉีก รูปแบบ เจาะลูกค้าเซ็กเมนท์ใหม่ ซูซูกิ ส่ง "เอ-วินด์ คอนเซปต์คาร์" ครั้งแรกในโลก
  • นายสมชาย หาญหิรัญ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.)เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เอ็มพีไอ) ปีนี้จะติดลบ 2.8% ต่ำกว่าประมาณการเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 0.5-1% โดยในช่วง 10 เดือนแรกติดลบแล้ว 2.1% ใช้กำลังการผลิตเฉลี่ย 64.94% ขณะที่จีดีพีภาคอุตสาหกรรมจะขยายตัวเพียง 0.2% ต่ำกว่าคาดการณ์เดิมที่ 3-4%
  • นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันที่ 28 พ.ย.ค่อนข้างผันผวนตามปัจจัยการเมืองในประเทศและปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศโดยช่วงเปิดตลาดค่าเงินอยู่ที่ระดับ 32.15 บาทต่อเหรียญสหรัฐ และอ่อนค่าต่ำสุดที่ระดับ 32.20-32.23 บาทต่อเหรียญสหรัฐแต่เมื่อปิดตลาดค่าเงินบาทแข็งค่ามาอยู่ที่32.13 บาทต่อเหรียญสหรัฐ และในช่วงนี้ค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง
  • แหล่งข่าวจากกรมศุลกากร เปิดเผยว่าระบบไอทีของกรมศุลกากร รวมถึงของกรมสรรพากร และกรมสรรพสามิต ล่ม เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลเข้ายึดพื้นที่กระทรวงการคลัง และมีการตัดไฟฟ้า ทำให้ระบบไอทีของกระทรวงการคลังล่มส่งผลให้ระบบของทั้ง 3 กรมภาษี ที่เชื่อมอยู่กับระบบกระทรวงการคลังมีปัญหาไปด้วย

*หุ้นเด่นวันนี้

  • BANPU(เคเคเทรด)"เก็งกำไรระยะสั้น"ราคาถ่านหิน BJI ปรับขึ้นตั้งแต่ต้นไตรมาสทำให้นักวิเคราะห์ประเมินว่าราคาเฉลี่ยของถ่านหิน BJI ใน 4Q56 จะอยู่ที่ระดับ 83 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน เพิ่มขึ้นอีก 6% QoQ หากปริมาณการขายของ BANPU ยังเติบโตต่อเนื่องจะทำให้รายได้จะเพิ่มขึ้น QoQ นอกจากนี้การทำสัญญาซื้อขายถ่านหินล่วงหน้าจากกลุ่มโรงไฟฟ้าที่กำลังจะเกิดขึ้น น่าจะหนุนราคาถ่านหินต่อเนื่องไปถึงต้นปีหน้าได้ นักวิเคราะห์พื้นฐานแนะนำถือ ส่วนทางเทคนิคมองระดับราคาหุ้นในกรอบ แนวรับ 29 บาท แนวต้าน 32.25 บาท
  • M (เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 61.25 บาท มองเป็นหุ้นปลอดภัยในภาวะตลาดขาลง เพราะนอกจากจะไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยการเมืองแล้ว ยังโดดเด่นทั้งในแง่แนวโน้มธุรกิจ และเงินปันผล โดยที่ใน 4Q56 บริษัทมีแผนขยายสาขาร้าน MK สุกี้ และร้านยาโยอิอีก 20 และ 10 แห่งตามลำดับ ขณะจากเงินสดในมือที่ 8-9 พันล้านบาท ทำให้มีโอกาสที่จะเห็นการขยายกิจการด้วยกลยุทธ์การเข้าซื้อกิจการอื่น สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2556 คาดว่าจะจ่ายเงินปันผลราว 2.20 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลราว 4.8%
  • TTA(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 23 บาท(หลังเพิ่มทุน 21 บาท) ประกาศผลการดำเนินงาน 4Q13 ขาดทุนสุทธิ 4,412 ลบ. แย่ลงทั้ง Q-Q และ Y-Y จากการตั้งสำรองด้อยค่าสินทรัพย์ แต่หากตัดรายการดังกล่าวออกจะมีกำไรปกติ 155 ลบ. (+4% Q-Q, -25% Y-Y) จากธุรกิจเมอร์เมดและส่วนแบ่งกำไรจาก AOD ที่ดีขึ้น ทำให้ผลการดำเนินงานปกติปี 2013 ขาดทุนลดลงเหลือ 185 ลบ. จากปีก่อนที่ขาดทุน 217 ลบ. ส่วนปี 2014 คาดว่าจะพลิกมาเป็นกำไรปกติ 988 ลบ. โดยเราได้ปรับคาดการณ์กำไรขึ้นราว 30% จากส่วนแบ่งกำไรจาก AOD ที่มีแนวโน้มดีกว่าที่เคยคาด
  • KCE(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 26.30 บาท หุ้นธุรกิจส่งออก เช่น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิคส์ ได้รับผลกระทบเชิงลบที่จำกัด จากเหตุการณ์ชุมนุมในประเทศ เนื่องจากรายได้หลักกว่า 95% มาจากลูกค้าในต่างประเทศ นอกจากนั้น ยังได้อานิสงค์เชิงบวก จากการอ่อนค่าของเงินบาท ถึง 2.7% QTD ใน 4Q56 เป็น 32.05 บาท/USD จากสิ้นสุด 3Q56 ที่ 31.22 บาท/USD และจะส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้น เนื่องจากรายได้เกือบทั้งหมดอยู่ในรูปสกุลเงิน USD ขณะที่ต้นทุนอยู่ในรูปสกุลเงินบาทราว 80-85%
  • SCB(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 191 บาท มองว่า SCB ยังเป็นธนาคารที่มีโครงสร้างสินเชื่อและ NPL Coverage Ratio ที่แข็งแกร่งรองรับปัจจัยเสี่ยงในปีหน้าได้ ส่วน SCB ชี้ว่าเพื่อสนับสนุนรวมทั้งลดภาระแก่ผู้ประกอบการ โดยธนาคารได้ดอกเบี้ยเงินกู้ MLR ลง 0.25% และ MRR ลง 0.1% ส่วนดอกเบี้ยเงินฝากประจำลดลง 0.05-0.15% และดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ลดลง 0.125% ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. ซึ่งมองว่าจะส่งผลให้ NIM และกำไรสุทธิปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ