(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งลงจากแรงขายทำกำไร หลังการเมืองยังไม่คลี่คลาย

ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้แกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบไม่มาก โดยวันนี้ทางจีนก็มีการประกาศตัวเลข PMI ซึ่งออกมาทรงตัว และตลาดสหรัฐฯก็ได้ปิดทำการเร็วเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า นอกจากนี้ตอนนี้นักลงทุนต่างชาติเริ่มชะลอการลงทุนหลังใกล้ช่วงเทศกาล

พร้อมให้แนวรับ 1,350-1,355 จุด แนวต้าน 1,380 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(29 พ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,086.41 จุด ลดลง 10.92 จุด(-0.07%) ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,805.81 จุด ลดลง 1.42 จุด (-0.08%) ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,059.886 จุด เพิ่มขึ้น 15.136 จุด(+0.37%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 2.13 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 17.38 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 54.86 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 22.41 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 5.58 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 1.52 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 6.29 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.03 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(29 พ.ย.)ที่ 1,371.13 จุด เพิ่มขึ้น 11.68 จุด(+0.86%)
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,559.87 ล้านบาท เมื่อ 29 พ.ย.56
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(29 พ.ย.)ที่ 92.72 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.42 ดอลลาร์ฯ
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(29 พ.ย.)ที่ 3.64 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 32.27/28 อ่อนค่าจากปัจจัยการเมืองร้อนระอุ
• "สุเทพ" ยึดจอทีวีอ่านแถลงการณ์ กปปส.ฉบับที่ 1 ให้ข้าราชการทั่วประเทศหยุดงานตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พร้อมระดมมวลชนลุยต่อ หลังยึดทำเนียบฯ-บช.น.ไม่สำเร็จ เจอแก๊สน้ำว่อนเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ-แยก พล.1 ผบ.ทบ.นิ่งไม่ไหว ประสาน"อดุลย์"หยุดใช้แก๊สน้ำตา วอนผู้ชุมนุมยุติบุกสถานที่ราชการ แต่ไร้ผล เผยก่อนค่ำตำรวจยังยิงแก๊สน้ำตาใกล้ทำเนียบรัฐบาล
• ประเทศยังไร้ทางออกหลังยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไม่ตอบรับข้อเสนอใดๆ ของนาย สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. หลังทั้งสองได้มีการพูดคุยกันต่อหน้าผู้นำทั้ง 3 เหล่าทัพ ช่วงค่ำวานนี้ ที่กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์
• แบงก์ชาติเผยคุณภาพสินเชื่อโดยรวมยังอยู่ในเกณฑ์ดี มีคุณภาพสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่ด้อยลงบ้าง สะท้อนผ่านยอด คงค้างเกิน 1 เดือนของสินเชื่ออุปโภค เพิ่มแตะ 5.4% จากเดิม 5.2% ขณะที่แบงก์พาณิชย์ยังห่วงความผันผวนเศรษฐกิจ ลุยเพิ่มเงินสำรองพึงกันเป็น 167.4% ส่วนเงินสำรองต่อสินทรัพย์เสี่ยงพุ่งแตะ 16.5 เท่า
• ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินเศรษฐกิจไตรมาส 4 จีดีพีโตแค่ 1% จับตาการเมืองลากยาวตัวแปรหลักในการเข้าสู่เส้นทางฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
• เอกชนกังวล ศก.ครึ่งปีหลังชะลอตัว กระทบก่อสร้าง คงเป้าลงทุน ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านล้าน รอลุ้นโครงการลงทุนภาครัฐ คาดยอดซื้อขายนิคมลดลง 20% จับตาสัญญาณเศรษฐกิจ

*หุ้นเด่นวันนี้

• KCE(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 26.30 บาท หุ้นส่งออกได้รับผลกระทบเชิงลบจำกัดจากเหตุการณ์ชุมนุมในประเทศ เนื่องจากรายได้หลักกว่า 95% มาจากลูกค้าต่างประเทศ และยังได้อานิสงส์เชิงบวกจากบาทอ่อนทำให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น เบื้องต้นคาดว่ากำไรสุทธิ 4Q56 โตสูง +136% yoy เป็น 248 ล้านบาท และส่งผลให้กำไรสุทธิปี 56 เพิ่มขึ้น +83.4% yoy เป็น 1,306 ล้านบาท และราคาหุ้นมี Valuation ที่ไม่สูงมากนัก
• AOT(ธนชาต)"ซื้อ"เป้า 250 บาท ประกาศกำไรปกติ 4Q13 ที่ 1.7 พันล้านบาท +11% y-y ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 2 พันล้านบาท เนื่องจากรายจ่ายภาษีที่มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่ประกาศกำไรสุทธิ ที่ 5.2 พันล้านบาท +237% y-y เท่ากับที่คาดการณ์ ส่วนปัจจัยการเมืองจะเป็นปัจจัยกดดันระยะสั้นเท่านั้น
• AMATA(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปีหน้า 22.60 บาท ปัจจัยหนุนคือการนำอมตะวีเอ็นเข้าตลาดฯใน 2Q-3Q14 และขาย Property fund ในปี 2014 ส่วนผู้บริหารลดเป้ายอดขายที่ดินปีนี้เหลือ 1 พันไร่ จากเดิม 3 พันไร่ และต่ำกว่าที่คาดที่ 2 พันไร่ หลังถูกกระทบจากการเมือง ราคาหุ้นอาจปรับลงเพราะผิดหวังที่ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า
• HANA(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 24.5 บาท บาทอ่อนได้รับประโยชน์มากสุดในกลุ่มหุ้นที่ศึกษา ขณะที่ปัจจัยหนุนผลประกอบการระยะสั้นจะอยู่ที่ความเป็นไปได้ที่จะมีการบันทึกเงินประกันความเสียหายทรัพย์สินจากน้ำท่วมที่เหลือราว 190 ล้านบาทเข้ามาใน 4Q56 โดยประเมินกำไรสุทธิในปี 56 และ 557 ยังคงเติบโตโดดเด่น 15% และ 27% YoY ตามลำดับ ขณะที่การขยายกำลังการผลิตโรงงานลำพูน(โรงงาน 2)ที่จะแล้วเสร็จใน 2Q57 ถือเป็น Upside ในอนาคต