บลจ.กรุงศรี ขายกองทุนเปิดตราสารหนี้ 6M80 ชูผลตอบแทน 3.10%ต่อปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 2, 2013 13:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.กรุงศรี (KSAM) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M80 (KFFIX6M80) อายุประมาณ 6 เดือน มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น เงินฝากธนาคาร Bank of China (สาธารณรัฐประชาชนจีน , สาขามาเก๊า) สัดส่วนการลงทุน 20% เงินฝากธนาคาร Union National Bank (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) สัดส่วนการลงทุน 20% ตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Industrial and Commercial Bank of China (Asia) (สาธารณรัฐประชาชนจีน , ฮ่องกง) สัดส่วนการลงทุน 20% ตราสารหนี้ ECP การันตีโดยธนาคาร Gazprombank (รัสเซีย) สัดส่วนการลงทุน 20% ตราสารหนี้ระยะสั้นออกโดยธนาคารกรุงศรี จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 10% และตั๋วแลกเงินออกโดยบริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 10%

ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ 3.10% ต่อปี และหลังครบกำหนดอายุโครงการบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต่อไป

กองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M80(KFFIX6M80) เป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนในตราสารหนี้เหมาะกับ นักลงทุนที่มองหาการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำและต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก และต้องการล็อคผลตอบแทน โดยสามารถลงทุนได้เป็นระยะเวลาประมาณ 6 เดือน

ในส่วนของราคาตราสารหนี้ภาครัฐของสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นตามตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอ อย่างไรก็ตาม ราคาได้ปรับลดลงในเวลาต่อมาส่งผลให้ปิดเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อนหน้า ทางด้านยุโรป ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือน และความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของยูโรโซนเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 27 เดือน โดยได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรม ส่วนทางด้านเอเชีย ยอดค้าปลีกของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 จากช่วงเดียวกันปีก่อน และอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2541 ในเดือนตุลาคม สำหรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับตัวลดลงร้อยละ 0.08 ? 0.25 โดยที่เส้นอัตราผลตอบแทนมีลักษณะชันมากขึ้น ทั้งนี้เป็นผลจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายและมีแรงซื้อจากนักลงทุนต่างประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ