ส่วนในปี 57 คาดว่าปริมาณการซื้อขายจะลดลงมาที่ 4-4.5 หมื่นล้านบาท/วัน ประกอบกับ งานในด้านวาณิชธนกิจได้มีการเลื่อนดีลงานที่ปรึกษาทางการเงินไปจากปีนี้เป็นปีหน้าหลายดีล และปัจจุบันมีดีลอยู่ในมืออีก 5-10 ดีล ทั้งการออกและเสนอขายกองทุน การเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไป (IPO) การจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการควบรวมกิจการ
"ปีนี้เราจะมีกำไรเติบโตเป็นเท่าตัวจากปีก่อน และในปีหน้าเราจะพยายามรักษากำไรให้ใกล้เคียงกับปีนี้ จากปีนี้มีฐานที่ค่อนข้างสูง แต่เราก็หวังว่าอาจจะมีการเติบโตได้เล็กน้อย ซึ่งปีหน้าก็จะมีการเติบโตได้จากงานสายวาณิชธนกิจ ที่มีดีลอยู่อีก 5-10 ดีลที่เลื่อนจากปีนี้ และ volume ที่คาดว่าปีหน้าจะอยู่ที่ราว 4-4.5 หมื่นล้านบาท และก็ได้มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT"นายมนตรี กล่าว
ทั้งนี้ ในปีหน้าบริษัทฯคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยจะไปอยู่ที่ระดับ 1,450 จุด มีค่า P/E ที่ 13.5 เท่า และยังต้องมีการติดตามสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในปัจจุบันว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ประกอบกับ การชะลอตัวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE) สหรัฐฯที่คาดว่าจะมีการเลื่อนออกไปยุติหรือชะลอได้จริงหรือไม่ หากยังไม่มีความชัดเจนว่าจะลดมาตรการได้เมื่อไหร่นั้น ก็อาจจะส่งผลดีต่อดัชนีตลาดหุ้นไทย
สำหรับสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันยังไม่สามารถประเมิณได้ว่าจะจบลงเมื่อไหร่ ซึ่งแนะนำนักลงทุนว่าควรมีการประเมินบนพื้นฐานความเสี่ยงที่เกิดขึ้น หากประเมินว่าจะมีการคลี่คลายก็มองเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเข้าซื้อ