สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB236A, LB176A และ LB196A (รุ่นอายุ 9.5 ปี, 3.5 ปี และ 5.5 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 10,134 ล้านบาท หรือคิดเป็น 70% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ของบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BECL183A) มูลค่า 100.4 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ของบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BECL203A) มูลค่า 99.8 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ของ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) (BTG14NA) มูลค่า 71.0 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 271.1 ล้านบาท หรือคิดเป็น 53.0% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 4,126 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 12,711 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 197 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.31% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.54% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.03%
Yield Curve ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบทุกช่วงอายุตราสาร ประมาณ 1-8 bps. โดยเฉพาะตราสารหนี้รุ่นอายุ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้นถึง 8 bps. นักลงทุนยังคงจับตาเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองภายในประเทศ และผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ ด้านนักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 197 ล้านบาท