สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB176A, LB155A และ LB196A (รุ่นอายุ 3.5 ปี, 1.4 ปี และ 5.5 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 9,001 ล้านบาท หรือคิดเป็น 60% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ของบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BECL183A) มูลค่า 347.9 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ของบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) (BJC145A) มูลค่า 201.1 ล้านบาท
3. หุ้นกู้บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC17OA) มูลค่า 167.6 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 716.6 ล้านบาท หรือคิดเป็น 52.8% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 13,783 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตเพื่อค้าตราสารหนี้ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 3,625 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -1,350 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.32% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.01% และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.54% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน
Yield Curve แกว่งตัวในกรอบแคบๆ เปลี่ยนแปลงประมาณ 1 bp. นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การเมืองภายในประเทศที่มีโอกาสทวีความรุนแรงขึ้น ประกอบกับตลาดกลับมากังวลว่า Fed อาจจะเริ่มลดขนาดมาตรการ QE ในการการประชุม FOMC วันที่ 17-18