รายได้จะมาจากงานที่มีอยู่ในมือ(Backlog)ปีนี้จะแตะ 1 หมื่นล้านบาท และแนวโน้มงานปีหน้าก็จะเข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีงานที่เตรียมจะเข้าประมูลอีกกว่า 2 หมื่นล้านในปี 57 ขณะที่ล่าสุดมีงานที่เข้ามาเซ็นสัญญาแล้วส่วนหนึ่งคือ งานสร้าง hypermarket ที่น่าจะเริ่มดำเนินการได้ในปีหน้า อย่างไรก็ตาม ต้องมีการติดตามสถานการทางการเมืองว่าจะมีการยืดเยื้อไปถึงเมื่อไหร่ ประกอบกับเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจในประเทศจะมีการเติบโตได้ดีหรือไม่
"รายได้ในปีหน้าเราก็ลุ้นอาจจะเติบโตมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจทั้งในประเทศและเศรษฐกิจโลก รวมถึงการเมืองว่าจะยืดเยื้ออีกนานแค่ไหน ซึ่งหากยืดเยื้อไปนานก็จะกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้บริโภค ก็จะกระทบต่อไปถึงบริษัทฯโดยเฉพาะโครงการ hypermarket ที่เป็นรายได้หลักของบริษัทฯ อาจจะชะลอออกไป" นายสุรศักดิ์ กล่าว
สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าในปี 57 จะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากปีนี้ที่อยู่ในระดับราว 8% จากที่บริษัทฯมีการเลือกรับงานที่มีกำไรค่อนข้างดี ประกอบกับ บริษัทได้สร้างโรงงานประกอบเหล็ก ซึ่งสามารถลดต้นทุนได้
ส่วนแผนการออกหุ้นเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้นักลงทุนเฉพาะเจาะจง(PP)จำนวน 175 ล้านหุ้น ขณะนี้ได้ตัดสินใจที่จะชะลอออกไป จากเดิมที่คาดว่าจะดำเนินการได้ในช่วงไตรมาส 3/56 เนื่องจากภาวะตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ยังมีความผันผวนมากและดัชนีเหวี่ยงตัวลงมาก ทำให้ราคาหุ้นของ CNT ลดลง อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงไตรมาส 1/57 ก่อนที่จะมีการประชุมผู้ถือหุ้นในช่วงเดือน เม.ย./57
"เงินลงทุนของบริษัทฯยังพอกับการดำเนินธุรกิจต่อไป ถึงแม้ว่าจะยังไม่สามารถเพิ่มทุนได้ แต่บริษัทฯก็ยังมีความสามารถในการกู้จากสถาบันทางการเงินอยู่ เนื่องจากปัจจุบันบริษัทฯเรามี D/E เพียง 1.6 เท่า ซึ่งยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ และยังมีความสามารถในการกู้ได้" นายสุรศักดิ์ กล่าว