นายนิรันดร์ เชาว์กิตติโสภณ ประธานกรรมการ บมจ.โฮม พอตเทอรี่ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เพื่อนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปขยายช่องทางการตลาดเพิ่มเติมในต่างประเทศ รวมทั้งพยายามสร้างแบรนด์สินค้า ? เพทาย" ของบริษัทให้แข็งแกร่งและเป็นที่รู้จัก สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่มากยิ่งขึ้น อีกทั้งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ซึ่งจะทำให้สามารถลดต้นทุนการผลิตจากการสูญเสียระหว่างขั้นตอนการผลิตอีกด้วย และจะส่งผลให้บริษัทสามารถแข่งขันในอุตสาหกรรมได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ บริษัทเห็นว่าอุตสาหกรรมเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารยังมีโอกาสในการขยายตัวต่อเนื่อง จากความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายโดยเฉพาะโรมแรมขนาดใหญ่ในต่างประเทศที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง มีดีไซน์ที่ทันสมัยและเหมาะกับการใช้งาน ขณะที่ภัตตาคารขนาดใหญ่ก็ต้องการสินค้าที่มีเอกลักษณ์ มีลวดลายดีไซน์ที่ทันสมัย ซึ่งผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกกลุ่มอุตสาหกรรม
ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนการส่งออกประมาณ 98% โดยส่งออกให้กับตัวแทนจำหน่ายทั้งในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และประเทศในยุโรป นอกจากนี้บริษัทรับผลิตสินค้าให้กับบริษัท LIBBY ซึ่งเป็นผู้นำเข้าสินค้าประเภทเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารรายใหญ่ในประเทศสหรัฐอเมริกา รวมทั้งบริษัทมีแผนที่จะร่วมทุนกับบริษัท Southern Hospitality ในประเทศนิวซีแลนด์ เพื่อเป็นตัวแทนในการกระจายสินค้าในรูปแบบ Hotel Supply ด้วยคุณภาพชั้นดีของวัตถุดิบที่นำมาใช้ในการผลิตสินค้า และเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย และมีแห่งเดียวในประเทศไทย ทำให้บริษัทได้รับความไว้วางใจจากโรงแรมชั้นนำในต่างประเทศเป็นจำนวนมาก
นางสาวนิจวรรณ เชาว์กิตติโสภณ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ บมจ.โฮม พอตเทอรี่ กล่าวว่า บริษัทนำแบรนด์ ?เพทาย" ออกสู่ตลาดเป็นแบรนด์สินค้าของบริษัท ประมาณ 1 ปี โดยมีจุดเด่นเรื่องผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงในการผลิต ซึ่งทำให้ทนทานและแข็งแรง มีอายุการใช้งานนาน นอกจากนี้ยังมีความสวยงาม แวววาวอีกด้วย เนื่องจากนี้ บริษัทยังมีโรงงานตั้งอยู่ใกล้แหล่งวัตถุดิบ และใช้มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ? Low Profile Glaze Foot" ซึ่งเป็นบริษัทเดียวในประเทศไทยที่นำเทคโนโลยีนี้จากประเทศอังกฤษมาใช้ โดยมีคุณสมบัติพิเศษที่ทำให้ขอบด้านล่างของผลิตภัณฑ์ไม่เกิดเสียดสีจนทำให้พื้นโต๊ะเป็นรอย ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก
นอกจากนี้ แบรนด์ ?เพทาย" ยังมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายเหมาะกับการใช้งานในแต่ละส่วน เช่น Inspire เหมาะสำหรับร้านอาหาร หรือโรงแรมที่ต้องการความโดดเด่น ความหรูหรา รวมทั้งการออกแบบที่ทันสมัยและเป็นเอกลักษณ์ของ เพทาย จึงทำให้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าในต่างประเทศ
ที่ผ่านมาบริษัทได้ไปแสดงสินค้าเพื่อประชาสัมพันธ์ แบรนด์และผลิตภัณฑ์ของบริษัท ในต่างประเทศอยู่เสมอ ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการโรงแรมและร้านอาหารในต่างประเทศเป็นจำนวนมาก จนทำให้บริษัทมีสัดส่วนการส่งออกประมาณ 98% และพร้อมที่จะขยายตลาดต่อไปในอนาคต โดยมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ขณะที่ตลาดในประเทศบริษัทเน้นจำหน่ายกับร้านอาหารขนาดใหญ่ ซึ่งต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีความหรูหรา ดูดีและทันสมัย ซึ่งผลิตภัณฑ์ของบริษัทสามารถรองรับตลาดได้ทุกกลุ่มทั้ง HOTEL WARE และ HOUSE WARE
ด้านนายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร APM กล่าวว่า บริษัท โฮม พอตเทอรี่ ถือว่าเป็นบริษัทที่อยู่ในโครงการ หุ้นใหม่ความภาคภูมิจังหวัด โครงการ 2 ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเป็นบริษัทที่มีศักยภาพที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ อีกทั้งบริษัทเป็นผู้ผลิตและส่งออกเครื่องใช้สำหรับโต๊ะอาหารที่ได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ จะเห็นได้จากสัดส่วนการส่งออกที่มีมากถึง 98% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเป็นผลิตภัณฑ์มีความน่าเชื่อถือและมีคุณภาพระดับโลก
ทั้งนี้เห็นว่าธุรกิจยังมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง และถือเป็นบริษัทผลิตเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารรายแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ซึ่งจะทำให้ได้รับการยอมรับในมาตรฐานสากลมากยิ่งขึ้น และด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย และผลิตภัณฑ์สามารถตอบโจทย์ของผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี จึงเชื่อว่าบริษัทจะสามารถขยายช่องทางการตลาด รวมทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของอุตสาหกรรมในอนาคตได้ด้วยเม็ดเงินจากการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีโอกาสที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทอยู่ระหว่างการจัดโครงการทางการเงินและจัดทำไฟลิ่ง ซึ่งคาดว่าจะสามารถยื่นไฟลิ่งให้กับก.ล.ต.ได้ ภายในไตรมาส 2 ของปี 2557
สำหรับโฮม พอตเทอรี่ มียอดขายในปี 2555 อยู่ที่ 120 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 13 ล้านบาท และในช่วงครึ่งปีแรก ของปี 2556 บริษัทมียอดขาย 65 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 6 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทคาดว่า ปี 2556 และ 2557 จะมียอดขายที่ 135 ล้านบาท และ 150 ล้านบาท ตามลำดับ โดยคาดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยประมาณ 10 ? 15%