(เพิ่มเติม) MK เตรียมเปิดอีก 2 โครงการใหม่ในช่วงที่เหลือของปีนี้ กว่า 700 ลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 4, 2013 16:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวชุติมา ตั้งมติธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายบัญชี-การเงิน บมจ.มั่นคงเคหะการ (MK) เปิดเผยว่า คาดรายได้ในไตรมาส 4/56 จะเป็นรายได้สูงที่สุดของปี เพื่อเข้าสู่เป้าหมายทั้งปีที่วางไว้ 3,000 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมา 74% จาก 9 เดือนมีรายได้ 2,020.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60.66% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดย ณ สิ้นไตรมาส 3/56 มี ยอดรอรับรู้รายได้ (Backlog) แล้ว 628 ล้านบาท และคาดหวังรายได้จากการขายใหม่ในอีก 3 เดือนที่เหลือในปีนี้อีกประมาณ 352 ล้านบาท

โครงการใหม่ที่จะเปิดขายในช่วงที่เหลือของปีนี้ อีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการชวนชื่น พระราม 7 ? สิรินธร บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ระดับราคา 3.7-5.5 ล้านบาท บนเนื้อที่ 12 ไร่ จำนวนทั้งหมด 74 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 312 ล้านบาท และ โครงการลีออง สุขุมวิท 62 เป็นรูปแบบทาวน์โฮม 3 ชั้น ในราคาตั้งแต่ 7 ล้านบาทขึ้นไป บนเนื้อที่ 6 ไร่ จำนวนทั้งหมด 58 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 430 ล้านบาท

กลยุทธ์ด้านการตลาด บริษัทได้เน้นการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการขายตลาดตลอดทั้งปี พร้อมด้วยการเพิ่มช่องทางการสื่อสารไปยังผู้บริโภคโดยตรง เช่น สื่อบิลบอร์ด และสื่อออนไลน์ นอกจากนี้ ความพึงพอใจของลูกค้าเดิมต่อสินค้าและบริการของบริษัทยังเป็นสิ่งที่ชักนำให้เกิดการซื้อของลูกค้าใหม่กว่า36%

ในปีนี้ได้มีการเปิดตัวแบบบ้านใหม่เพิ่มเพื่อให้เกิดความหลากหลายในผลิตภัณฑ์ โดยมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบดีไซน์ใหม่ๆ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ได้แก่ แบบบ้าน ทวิมน ทวินันท์ ชลิดา ที่เล่นสีสันแปลกตา รวมถึงทาวน์โฮมสไตล์วินเทจ แบบใหม่ในโครงการชวนชื่นจรัญฯ 3 และลีออง ที่หรูหราด้วยบัวและเหล็กประดับ wrought iron

ด้านการเงิน แม้ว่าในปีนี้อัตราส่วนกำไรเบื้องต้นของบริษัทจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 34% ซึ่งใกล้เคียงกับค่า median ของอุตสาหกรรมที่อยู่อาศัย อันเนื่องจากการรับรู้รายได้จาก คอนโดมิเนียมที่มีกำไรเบื้องต้นต่ำกว่าบ้านแนวราบ แต่บริษัทก็มีอัตราส่วนกำไรสุทธิที่สูงถึง 15.23% ซึ่งสูงกว่าอุตสาหกรรมที่มีค่า median 7.84% และค่าเฉลี่ย 2.57% อยู่มาก

และบริษัทก็ยังคงรักษาความโดดเด่นในการรักษาความแข็งแกร่งของฐานะการเงิน เห็นได้จากอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนยังคงอยู่ในระดับต่ำเพียง 0.33 เท่า ณ สิ้นไตรมาส 3/2556 ในขณะที่ผู้ประกอบการที่อยู่อาศัยในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีค่าเฉลี่ยของ D/E อยู่ในระดับ 2.57

เป้าหมายในปี 57 ภายใต้การตลาดคอนโดมิเนียมที่ค่อนข้างอิ่มตัว และภาวะเศรษฐกิจที่ยังถูกรุมเร้าด้วยปัจจัยลบ บริษัทตั้งเป้ารายได้หลักจากยอดขายโครงการแนวราบ โดยมีเป้ารายได้อยู่ที่ 3,000 ล้านบาท โดยจะมาจากการขายโครงการเดิม 59% โครงการที่เปิดใหม่ในปี56อีก 32% และจากโครงการที่จะเปิดใหม่ในปีหน้าอีก 6% รวมถึงรายได้จากธุรกิจบริการอีก 3%

ทั้งนี้ บริษัทมีโครงการต่างๆ ที่มีสินค้าพร้อมขายรวม 16 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่อยู่โซนเหนือมูลค่า 755 ล้านบาท จากจำนวน 5 โครงการที่เปิดการขายอยู่โซนตะวันออกเฉียงเหนือ มี 3 โครงการเปิดการขาย มูลค่าคงเหลือ 500 ล้านบาท โซนตะวันตกมีจำนวน 3 โครงการ รวมมูลค่า 1,153 ล้านบาท โซนตะวันออกมีจำนวน 3 โครงการ รวมมูลค่า 659 ล้านบาท โซนใต้ มีจำนวน 2 โครงการ รวมมูลค่า 216 ล้านบาท และโซนใจกลางเมือง จำนวน 1 โครงการ มูลค่าคงเหลือ 1,600 ล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทมีโครงการที่แล้วเสร็จสมบูรณ์จำนวน 5 โครงการ ได้แก่ โครงการเด็น วิภาวดี โครงการชวนชื่นมารีน่า โครงการสิรีนเฮาส์ บางนา โครงการเรสซิเด้นซ์พาร์ค และโครงการชวนชื่นประชาอุทิศ-สุขสวัสดิ์

นางสาวชุติมา กล่าวว่า ในปี 57 บริษัทฯตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่รวม 5 โครงการ โดยแบ่งเป็น แนวราบ 3 โครงการ และแนวสูง 2 โครงการ มูลค่ารวมราว 1.7 พันล้านบาท โดยในปี 57 บริษัทฯคาดว่าจะมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มสูงขึ้นเป็น 38% จากปีนี้ที่ 34% เนื่องจากในปี 57 บริษัทฯจะมีการออกหุ้นกู้เพื่อขายให้บุคคลเฉพาะกลุ่ม เพื่อมาใช้ในการลงทุนสร้างโครงการแนวสูง ซึ่งจะช่วงอัตรากำไรขั้นต้นในปี 57 ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น

สำหรับภาวะเศรษฐกิจที่มีการชะลอตัว และหนี้ครัวเรือน ไม่ได้มีผลกระทบต่อยอดขาย เนื่องจากบริษัทฯมีการขายในระดับราคา 3-4 ล้านบาท ยังเป็นกำลังซื้อที่ดีอยู่ แต่กระทบบ้างต่อการตัดสินใจโอนเท่านั้น ขณะที่ยอดการปฏิเสธสินเชื่อลดลงมาอยู่ที่ 11% จากเดิม 13% โดยปี 57 ก็คาดว่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียง 11% เนื่องจากทางธนาคารยังมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ