สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB236A, LB196A และ LB21DA (รุ่นอายุ 9.5 ปี, 5.5 ปี และ 8.0 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 9,720 ล้านบาท หรือคิดเป็น 59% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้บ้านปู (BANPU184A) มูลค่า 615.5 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ของบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) (BH18DA) มูลค่า 517.6 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ของ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) (AYCAL145A) มูลค่า 80.5 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 1,213.7 ล้านบาท หรือคิดเป็น 76.8% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -2,661 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตเพื่อค้าตราสารหนี้ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -1,631 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 1,541 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.33% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.01% และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.52% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.02%
Yield Curve ปรับลดลงในตราสารอายุ 3 ปีขึ้นไป ประมาณ 1-9 bps. โดยมีแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติในตราสารระยะยาว โดยเฉพาะรุ่นอายุ 10 ปี ด้านนักลงทุนรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยเฉพาะการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่จะประกาศในวันศุกร์นี้ สำหรับนักลงทุนต่างชาติมีแรงซื้อในพันธบัตรระยะยาว ยอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 1,541 ล้านบาท