ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างปรับตัวขึ้นกันถ้วนหน้าตามดาวโจนส์ที่ดีดตัวขานรับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่ออกมาดีมาก ทำให้อาจมีการลดขนาด QE เร็วขึ้น ซึ่งทาง Deutsche Bank(DB)ได้ปรับมุมมองการลดขนาด QE เป็นอาจจะเกิดขึ้นในเดือน ธ.ค.56 จากเดิมที่คาดว่าจะลดขนาด QE ในเดือน มี.ค.57 โดยเชื่อว่าผลกระทบจะไม่มากนัก
พร้อมให้แนวรับ 1,350 จุด แนวต้าน 1,380-1,390 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(6 ธ.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,020.20 จุด เพิ่มขึ้น 198.69 จุด(+1.26%) ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,805.09 จุด เพิ่มขึ้น 20.06 จุด (+1.12%) ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,062.521 จุด เพิ่มขึ้น 29.356 จุด(+0.73%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 256.74 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 4.68 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 226.90 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 72.04 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 20.11 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 7.97 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.02 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(6 ธ.ค.)ที่ 1,361.57 จุด ลดลง 15.06 จุด(-1.09%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,729.57 ล้านบาท เมื่อ 6 ธ.ค.56
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(6 ธ.ค.)ที่ 97.65 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.27 ดอลลาร์ฯ
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(6 ธ.ค.)ที่ 5.05 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.10 แข็งค่าหลังนายกฯประกาศยุบสภา
- สศค.หวั่นโครงการเมกะโปรเจค 2 ล้านล้านบาทไม่เกิด ฉุดเศรษฐกิจปีหน้าโตลด 0.5-1% จากตัวเลขคาดการณ์อัตรา 5% พร้อมยกการเมืองปัจจัยเสี่ยงสุดปีหน้า ขณะที่"แบงก์ทหารไทย"ห่วงศักยภาพการแข่งขันในระยะยาว มองแค่ล่าช้าออกไป ด้าน นักวิชาการ ห่วงโครงการไม่เกิดกระทบแผนลงทุนเอกชน ขณะที่ ซีไอเอ็มบีแนะภาคเอกชนปรับแผนการลงทุน เตือนรัฐรอบคอบออกมาตรการกระตุ้น
- ธนาคารแห่งประเทศไทย เผยจากการติดตามผลจากการชุมนุมทางการเมืองของประชาชนที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลาประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา ยังไม่เห็นว่ามีผลกระทบต่อการปล่อยสินเชื่อประเภทใดประเภทหนึ่งของระบบสถาบันการเงินให้ลดลงเป็นพิเศษ แต่การชุมนุมมีผลกระทบโดยตรงต่ออารมณ์ในการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคแล้ว บรรยากาศคนเดินห้างน้อยลง การใช้จ่ายน้อยลง ทั้งที่เป็นช่วงใกล้เทศกาลส่งท้ายปี
- รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)เปิดเผยว่า ปี 57 ภาคอุตสาหกรรมยังมีความต้องการแรงงานเพิ่มขึ้น ทำให้ยังอยู่ในภาวะขาดแคลนแรงงานประมาณ 5 แสนคน โดยเป็นการขาดแคลนแรงงานพื้นฐาน 4 แสนคน และแรงงานวิชาชีพ 1 แสนคน ภายใต้การคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวต่อเนื่องและการส่งออกของไทยขยายตัว 5%
- มอร์แกน สแตนเลย์ ตั้งสมมติฐานร้ายสุด การเมืองวุ่นไม่จบ รัฐบาลไม่สามารถประนีประนอมกับฝ่ายต่อต้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ส่งผลหุ้นไทยดิ่งรีเทิร์นติดลบ 25% ด้าน"โมเบียส"ชี้การเมืองกระทบตลาดระยะสั้น แต่ระยะยาวยังน่าลงทุน
*หุ้นเด่นวันนี้
- SVI(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 4.50 บาท เป็นหุ้น Top Pick ในกลุ่ม ปัจจัยหนุนระยะสั้นคาดกำไรปกติใน 4Q56 จะเป็นไตรมาสดีสุดของปี เพิ่มขึ้น 24% QoQ และ 75% YoY ขณะที่เงินประกันน้ำท่วมคาดจะรับรู้เป็นรายรับเข้ามาใน 4Q56 ราว 1 พันล้านบาท จะส่งผลให้มีโอกาสจ่ายเงินปันผลพิเศษ และกลับมีสถานะ Net Cash แนวโน้มปี 57 คาดกำไรปกติโตเด่นสุดในกลุ่ม
- PS(เคเคเทรด)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 28.70 บาท มีประเด็นบวกจากผลงานโดดเด่นใน 4Q56 จากงานในมือรองรับ โครงการคอนโดฯและทาวน์เฮาส์ราคาขายเฉลี่ย 2 ล้านบาททำให้สามารถจับกลุ่มเป้าหมายหลักของตลาดล่างได้ดี ทำให้ยอดขายปีนี้อาจสูงกว่าเป้า ระยะยาวการเพิ่มกำลังการผลิตโครงสร้างแบบ Pre-cast จะช่วยลดเวลาการปลูกสร้าง เร่งการโอนและลดการพึ่งพาแรงงาน คาดจ่ายปันผลของปี 56 ในอัตราหุ้นละ 67 สต.คิดผลตอบแทนเงินปันผล 3.3%(จ่ายปันผลปีละ 1 ครั้ง)
- TUF(คันทรี่ กรุ๊ป)เป้า 70 บาท(P/BV 1.8 เท่า)คาดกำไร Q4/56 เติบโตขึ้นต่อเนื่องจากค่าเงินบาที่อ่อนค่าลง และครึ่งปีหลังเข้าสู่ช่วง High season ของการส่งออก นอกจากนี้ ราคาปลาทูน่าเริ่มทรงตัวลดความผันผวนลงจาก 1H56 และโรงงาน PPC จะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตกุ้ง รวมถึงแนวโน้มธุรกิจกุ้งฟื้นตัว
- TTA(คันทรี่ กรุ๊ป)ราคาพื้นฐาน consensus ที่ 22.2 บาท/หุ้น ค่าระวางเรือปรับตัวขึ้นร้อนแรง +45% ภายใน 2 สัปดาห์ยืนเหนือ 2,000 จุด เป็นผลบวกต่อธุรกิจเดินเรือ คาดพลิกกลับมีกำไรในปี 57,ธุรกิจบริการเรือขุดเจาะน้ำมัน Mermaid ยังโตจากกองเรือเพิ่มขึ้นและสัญญารับงานระยะยาว อีกทั้งประกาศเพิ่มทุน 10:1 ที่ 14 บาท และ XW 3 หุ้นใหม่ต่อ 1 TTA-W4 ขึ้น XA 5 ก.พ. 57