บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า ระยะสั้นบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น(TRUE)มีประเด็นบวกจากการที่บริษัทออกกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน TRUEGIF ซึ่งเริ่มขายหน่วยลงทุนวันนี้เป็นวันแรก ผลบวกต่อบริษัทคือต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงหลังบริษัทนำเงินที่ได้ไปชำระหนี้ และคาดสัดส่วนหนี้สินต่อทุนสุทธี่ลดลงจากเดิม 19x เหลือ 2.4x คาดบริษัทจะมีการบันทึกกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์หลังภาษีราว 2.6 หมื่นล้านบาท
กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ทรูโกรท TRUEGIF เริ่มซื้อขายในช่วงวันที่ 9-16 ธันวาคม 2556 มีมูลค่าการเสนอขายประมาณ 5.8 หมื่นล้านบาท จากการขายสินทรัพย์ 1) กรรมสิทธิ์ในเสาโทรคมนาคมจำนวน 6 พันเสา 2) กรรมสิทธิ์ในระบบใยแก้วนำแสงหลักและอุปกรณ์ระบบสื่อสัญญาณที่เกี่ยวข้องความยาว 5,112 กิโลเมตรและระบบบรอดแบนด์ในเขตพื้นที่ต่างจังหวัดจำนวน 1.2 ล้านพอร์ต
และ 3) สิทธิในการรับประโยชน์จากรายได้สุทธิที่เกิดจากการให้เช่าเสาโทรคมนาคม จำนวน 5,845 เสา และระบบใยแก้วนำแสงและอุปกรณ์ระบบสื่อสัญญาณความยาว 47,250 กิโลเมตร ประมาณการผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับในปีแรกประมาณ 8.8% ทั้งนี้ TRUE มีแผนจะเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 18% ซึ่งทำให้ภายหลังจำหน่ายกองทุนคาดว่าบริษัทจะได้รับเงินสดสุทธิหลังหักสัดส่วนลงทุนจำนวน 4.76 หมื่นล้านบาท
ด้านผลการดำเนินงานคาดว่าบริษัทจะยังคงมีผลขาดทุนราว 8.6 หมื่นล้านบาทในปีนี้ แต่จะลดลงเหลือ 2.6 หมื่นล้านบาท จากต้นทุนโครงข่ายที่ลดลง หลังโอนย้านลูกค้าไปภายใต้ใบอนุญาตใหม่ อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าราคาหุ้นได้สะท้อนปัจจัยบวกดังกล่าวไปแล้ว ราคาปัจจุบันซื้อขายเกินมูลค่าพื้นฐานที่รวมผลประโยชน์ของ TRUEGIF ที่ 8.20 บาท และยังซื้อขายที่ EV/EBITDA ที่สูงกว่าคู่แข่งอย่าง ADVANC และ DTAC จึงแนะ"ขาย"หุ้น TRUE