สำหรับโครงสร้างการลงทุนใหม่นี้ได้พิจารณาจัดกลุ่มจากสินทรัพย์ของบริษัทฯ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ได้เป็น 3 กลุ่มหลัก พร้อมทั้งให้บริษัทย่อยเป็นกลไกการลงทุนของบริษัทฯ
นายพงษ์ดิษฐ กล่าวว่า บริษัทฯ ได้เริ่มจัดพอร์ตสินทรัพย์ตามโครงสร้างการลงทุนใหม่ในไตรมาสนี้ โดยจะทยอยดำเนินการโอนสินทรัพย์ที่ลงทุนแล้วในปัจจุบันไปยังบริษัทย่อยทั้งสามแห่ง ซึ่งจะทำในรูปของการขายสินทรัพย์ เริ่มต้นจากโครงการผลิตไฟฟ้านวนคร ซึ่งบริษัทฯ ได้ขายหุ้นที่ถืออยู่ในบริษัท ผลิตไฟฟ้านวนคร จำกัด จำนวน 16,080,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 10 บาท ตามราคาทุนที่ชำระแล้ว รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 160.80 ล้านบาท ให้กับบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 99.99
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีการลงทุนในโครงการต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ แบ่งตามโครงสร้างธุรกิจใหม่ ดังนี้
1) โครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงหลักในประเทศขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ได้แก่ โรงไฟฟ้าราชบุรีเพาเวอร์ โรงไฟฟ้าไตรเอนเนอจี้ โรงไฟฟ้าราชบุรีเวอล์ดโคเจนเนอเรชั่น โรงไฟฟ้าผลิตไฟฟ้านวนคร โรงไฟฟ้าประดู่เฒ่า และโรงไฟฟ้าเสาเถียร
2) โครงการพลังงานทดแทนในประเทศ ได้แก่ โครงการพลังงานแสงอาทิตย์โซลาร์ต้า (8 โครงการ) โครงการโซล่าร์เพาเวอร์ (3 โครงการ) โครงการพลังงานลมห้วยบง (2 โครงการ) และโครงการพลังงานลมเขาค้อ
3) โครงการในต่างประเทศ ได้แก่ โรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 สปป. ลาว โรงไฟฟ้าเซเปียนเซน้ำน้อย สปป. ลาว และโรงไฟฟ้าที่ลงทุนโดยบริษัท ราช-ออสเตรเลีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในออสเตรเลีย