TPOLY เปิดแผนโค้งสุดท้ายปีนี้มุ่งรับงานขนาดใหญ่ดัน Backlog ทะลุ 4.2 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 9, 2013 11:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายไชยณรงค์ จันทร์พลังศรี กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยโพลีคอนส์(TPOLY) เปิดเผยถึงกลยุทธ์ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ว่า บริษัทยังคงมุ่งรับงานขนาดใหญ่ที่มีอัตรากำไรขั้นต้น (Margin) สูง โดยคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีปริมาณงานในมือ (Backlog) 4,200 ล้านบาท และเป้าหมายการเติบโตรายได้ที่ 20-25%

สำหรับความคืบหน้าของโรงไฟฟ้าอื่นๆ ขณะนี้โรงไฟฟ้ามหาชัย กรีนเพาเวอร์ ได้รับการอนุมัติจากทางคณะกรรมการกลั่นกรองแล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) คาดว่าจะเริ่มขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation Date: COD) ได้ในช่วงต้นปี 2558 ส่วนโรงไฟฟ้าทุ่งสัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับการอนุมัติจากทางจังหวัดแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมเอกสารเพื่อยื่นแก่กรมโรงงานต่อไป

ขณะที่บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ TPOLY กำลังศึกษาความเป็นไปได้ของการจัดตั้งโรงไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ โดยขณะนี้กำลังเตรียมจัดตั้งบริษัทย่อย “พัทลุง กรีน เพาเวอร์" เพื่อพัฒนาโรงไฟฟ้าที่จังหวัดพัทลุงต่อไป และคาดว่าในปี 2560 บริษัทฯ จะสามารถมีโรงไฟฟ้าซึ่งมีกำลังการผลิตครบทั้ง 160 เมกะวัตต์ได้ตามเป้าหมาย และมีแผนที่จะนำทีพีซี เพาเวอร์โฮลดิ้ง เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในปี 2557

“ผลประกอบการ TPOLY ไตรมาส 3/56 และงวด 9 เดือนนี้ มีการเติบโตอย่างโดดเด่นต่อเนื่อง เนื่องจากมีรายได้จากทั้ง 3 ขาคือ ธุรกิจโรงไฟฟ้า อสังหาฯ และงานรับเหมาก่อสร้างก็เพิ่มขึ้นด้วย โดยในส่วนของรับเหมาฯ รายได้ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,968.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.75 ซึ่งเป็นผลจากวิสัยทัศน์ผู้บริหารและปัจจัยทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง

ส่วนโรงไฟฟ้าช้างแรกสามารถผลิตไฟฟ้าได้มากกว่าดัชนีชี้วัด (KPI) ของทางบริษัทฯ ทำให้รายได้ของธุรกิจพลังงานสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ตอนแรก โดยปัจจุบันสามารถผลิตไฟฟ้าได้มากกว่า 210,000 หน่วยต่อวัน จากที่ตั้งไว้ที่ 200,000 หน่วยต่อวัน คาดว่าสิ้นปีนี้จะสามารถสร้างรายได้มากกว่าที่ประมาณการไว้ 170 ล้านบาท ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สามารถขายบ้านได้ตามแผน คาดว่าทั้งปีจะสามารถสร้างรายได้มากกว่า 220 ล้านบาท" นายไชยณรงค์ กล่าว

ผลดำเนินงานไตรมาส 3/2556 บริษัทฯ มีรายได้รวม 793.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 43.78 และมีกำไรสุทธิ 21.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 123.74 ส่วนงวด 9 เดือนมีรายได้รวม 2,235.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 21.23 และกำไรสุทธิ 39.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 149.59


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ