องค์คณะเสียงข้างมากพิจารณาแล้วมีความเห็นว่า กสทช.มีอำนาจหน้าที่ออกประกาศ กสทช.เรื่องหลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์ที่ต้องให้บริการแก่ประชาชนภายใต้การให้บริการโทรทัศน์เป็นการทั่วไป (ประกาศพิพาท หรือ Must Carry)ตามพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ พ.ศ.2553เพื่อประโยชน์ในการค้มครองผู้บริโภค แม้ว่า บริษัท อาร์เอส อินเตอร์ฯจะเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในการเผยแพร่การกระจายเสียงการถ่ายทอดสดรายการการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 รอบสุดท้ายตามกม.แพ่งและพาณิชย์ แต่บทบัญญัติดังกล่าวย่อมอยู่ภายใต้บังคับแห่งกฎหมายอื่นใดที่เกี่ยวข้องด้วย
"หากประโยชน์ของมหาชนจะพึงได้รับมากกว่าความสูญเสียของปัจเจกชนแล้ว กฎหมายย่อมมีผลย้อนหลังได้ภายใต้หลักพอสมควรแก่เหตุเพื่อควบคุมให้ประโยชน์ของปัจเจกชนที่ต้องสูญเสียนั้นมีน้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ในชั้นนี้จึงยังรับฟังไม่ได้ว่าประกาศพิพาทไม่ชอบด้วยกฎหมาย" คำสั่งศาลระบุ
พ.อ.นที กล่าวว่า อาร์เอส จึงต้องทำการถ่ายทอดสดรายการฟุตบอลโลก 2014 ในรอบ Final 64 นัด ผ่านช่องฟรีทีวี ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นจะมีช่องฟรีทีวี 36ช่อง ซึ่งก็แล้วแต่อาร์เอสจะจัดสรรอย่างไร โดยอย่างน้อยออกช่องรายการที่มีความคมชัดแบบมาตรฐาน (SD) เพราะฟุตบอลโลก เป็นมหกรรมกีฬาของมวลมหาชน ทั้งนี้ อาร์เอสไม่มีสิทธิอุทธรณ์