นายปสันน สวัสดิ์บุรี รองกรรมการผู้จัดการอวุโส แผนกธุรกิจใหม่และวางแผนกลยุทธ์ NWR เปิดเผยว่า บริษัทฯคาดรายได้เติบโตต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้จากเดิมอยู่ที่ 20% มาอยู่ที่ 15% เนื่องจากงานของภาครัฐไม่ว่าจะเป็นงานโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาทหรือโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท มีความล่าช้าออกไป
ขณะเดียวกัน กำไรในปีนี้ต่ำกว่าปีก่อน เนื่องจากไม่มีกำไรพิเศษเข้ามาเหมือนในปี 55 ที่มีกำไรพิเศษจากคดีฟ้องร้องในประเทศพม่าราว 330 ล้านบาท โดยบริษัทมีงานในมือ(Backlog)สิ้นปีนี้อยู่ที่ 11,899 ล้านบาท
ส่วนปี 57 บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโต 5-10% โดยบริษัทเตรียมเข้าประมูลงานราชการ มูลค่าเกือบ 1,000 ล้านบาท งานรัฐวิสาหกิจ มูลค่าอีกเกือบ 1,000 ล้านบาท และงานโรงไฟฟ้า 3 โครงการ มูลค่าเกือบ 6,000 ล้านบาท รวมมูลค่างานทั้งหมด 7,600 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับงานประมาณ 4,000 ล้านบาท และคาดว่าจะได้ข้อสรุปได้ในช่วงต้นปีหน้า
อีกทั้งบริษัทมีแผนเปิดโครงการบ้านเดี่ยว บารานี พาร์ค ร่มเกล้า ช่วงปลายเดือน ม.ค.57 และจะขายหมดได้ภายใน 2 ปี และจะโอนหมดได้ใน 3 ปี พร้อมกันนี้โครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด วิลล่า บารานี รังสิตคลอง 3 คาดว่าในช่วงสิ้นปีจะสามารถโอนได้ 35 แปลง มูลค่าประมาณ 102 ล้านบาท
"เราคิดว่าปีหน้าจะโตกว่าเดิมเล็กน้อยประมาณ 5-10% เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองทำให้รัฐไม่สามารถอนุมัติงบประมาณได้ มองว่าครึ่งปีหลังจากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เชื่อว่าจะสามารถอนุมัติงบประมาณออกมาได้ ทำให้โครงการต่างๆสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว" นายปสันน กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯสามารถควบคุมต้นทุนการก่อสร้างได้ และซื้อวัสดุล็อตใหญ่เข้ามาในราคาที่ถูกลง ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มสูงขึ้น จาก 30% เป็น 35% และอัตรากำไรสุทธิ จาก 10% เป็น 15%
สำหรับการร่วมทุนโรงแรมในประเทศพม่า ขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการศึกษษข้อกฎหมาย ซึ่งจะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงจากงานของภาครัฐ