วัตถุประสงค์ในการโรดโชว์ครั้งนี้ เพื่อให้นักลงทุนมีความรู้ความเข้าใจพื้นฐานธุรกิจของ AJD มากขึ้น พร้อมทั้งมองเห็นถึงกลยุทธ์การดำเนินงานและแนวโน้มธุรกิจในอนาคต รวมถึงวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร ซึ่งจากผลการดำเนินงานของบริษัทที่เติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี ประกอบกับแผนการขยายตลาดฯและช่องทางการจัดจำหน่าย ทำให้เชื่อว่าการโรดโชว์ในครั้งนี้จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก
ด้านนายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) ในฐานะแกนนำการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บมจ. คราวน์ เทค แอดวานซ์ (AJD) ซึ่งดำเนินธุรกิจจัดหาและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ภายใต้ตราสินค้า "AJ" คาดว่าจะสามารถเปิดจองซื้อหุ้น IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศได้ในช่วงต้นปี 57 ซึ่งวัตถุประสงค์ในการระดมทุนเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
“เชื่อว่าการโรดโชว์ครั้งนี้จะได้รับการตอบที่ดีจากนักลงทุนเพราะ AJD มีความน่าสนใจในเชิงธุรกิจและเป็นธุรกิจที่เข้าใจง่าย อีกทั้งมีผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับขณะนี้นักลงทุนเริ่มให้ความสนใจกับหุ้นไอพีโอมากขึ้น สอดรับกับภาวะตลาดที่เริ่มกระเตื้องขึ้นด้วย ทำให้ตลาดหุ้นกลับมาคึกคักอีกครั้ง" นายสมภพ กล่าวในที่สุด
นายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ระบุว่า AJD กล่าวว่า ภายหลังจากการระดมทุนในครั้งนี้แล้ว คาดว่าจะผลักดันให้ธุรกิจมีการขยายตัวได้อย่างโดดเด่นและสามารถสร้างกำไรที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นด้วย ดังนั้นจึงมั่นใจว่าหุ้น AJD จะได้รับการตอบรับอย่างคึกคัก
สำหรับผลประกอบของบริษัทฯ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (53-55) บมจ.คราวน์ เทค แอดวานซ์ มีกำไรสุทธิ 73.12 ล้านบาท 55.10 ล้านบาท และ 32.31 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 4.39%, 3.23% และ 1.87% ในแต่ละปี ตามลำดับ ส่วนงวด 9 เดือนของปี 56 บริษัทมีกำไรสุทธิ 50.68 ล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิ 4.23% สาเหตุที่กำไรสุทธิในปี 54 และ 55 ปรับตัวลดลงนั้น เป็นไปตามกำไรขั้นต้นที่ลดลงประกอบกับการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร และต้นทุนทางการเงินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้มีการลงทุนและปรับปรุงพัฒนาในหลายๆ ด้านในช่วงระหว่างปี 55 เช่น การปรับปรุงระบบการจัดเก็บสินค้าในคลัง เปลี่ยนแปลงระบบซอฟท์แวร์ในการบริหารจัดการธุรกิจให้ครอบคลุมทุกฝ่ายงานในบริษัท ซึ่งเริ่มใช้ตั้งแต่ต้นปี 56 เป็นต้นมา ทำให้ผู้บริหารสามารถรับทราบข้อมูลที่ทันสมัย และปรับปรุงกลยุทธ์ในการขายและการบริหารจัดการทุกๆ ด้านในองค์กรได้อย่างทันเวลาประกอบกับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่รวมจากเดิมแยกเป็น 4 บริษัทมารวมไว้ที่บริษัทเดียว ทำให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายที่ซ้ำซ้อนลงได้มากส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิในงวด 9 เดือนของปี 56 ปรับตัวเพิ่มขึ้น
อนึ่ง “คราวน์ เทค แอดวานซ์" ประกอบธุรกิจจัดหาและจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยการนำเข้าจากต่างประเทศโดยจัดจำหน่ายผ่านธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่เป็นหลัก สินค้าของกลุ่มบริษัทประกอบด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทภาพและเสียง (Audio and Visual: AV) อาทิเช่น เครื่องเล่นดีวีดีและเครื่องเล่นดีวีดีบลูเรย์ ชุดโฮมเธียร์เตอร์ วิทยุ เครื่องเล่นคาราโอเกะ เป็นต้น ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 80% ของรายได้จากการขาย และเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทเครื่องใช้ในครัวเรือน (Home Appliance: AP) เช่น แอร์เคลื่อนที่ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า กระติกน้ำร้อนไฟฟ้า เตาแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 20% ของรายได้จากการขาย