การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดของวันที่ 1,371.94 จุด ส่วนจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,361.67 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 322 หลักทรัพย์ ลดลง 332 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 198 หลักทรัพย์
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.อาร์เอชบี โอเอสเค(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในวันนี้แกว่งแคบ หลังจากที่มีการยุบสภาไปเรียบร้อยแล้วแต่การชุมนุมยังมีอยู่ และต่างฝ่ายต่างก็ยังไม่หันมาพูดคุยกัน ดังนั้นต้องรอดูว่าการตั้งสภาประชาชนจะทำได้หรือเปล่า และรัฐบาลก็ได้ถอยไปแล้ว ตอนนี้ก็คงจะต้องรอให้คุยกันและหาข้อสรุปร่วมกันให้ได้ก่อน ซึ่งในวันพรุ่งนี้(12 ธ.ค.)แกนนำก็จะคุยกับผบ.เหล่าทัพและองค์กรเอกชนที่จะเป็นตัวกลาง ก็ต้องรอดูว่าผลสรุปจะออกมาเป็นอย่างไร สำหรับทางออกของประเทศ
"ตอนนี้ตลาดบ้านเราจะให้น้ำหนักปัจจัยในประเทศเป็นหลัก ซึ่งก็คือเรื่องการเมือง ส่วนนักลงทุนต่างชาติได้ขายไปมากแล้ว และยังไม่วี่แววว่าจะกลับมา ดังนั้นคนที่เล่นอยู่ในขณะนี้เป็นนักลงทุนในประเทศทั้งนั้น ซึ่งให้น้ำหนักกับปัจจัยการเมืองเป็นหลัก ก็ต้องรอดูว่าทางออกจะเป็นอย่างไร"นายศราวุธ กล่าว
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวในแดนลบกันทั่วหน้า เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับการลดขนาด QE ภายหลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯออกมาดี โดยขณะนี้ต่างรอดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ในวันที่ 17-18 ธ.ค.ที่จะถึงนี้
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(12 ธ.ค.)นายศราวุธ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งแคบ เพื่อรอดูทิศทางของการเมืองต่อไป พร้อมให้แนวรับ 1,365-1,360 จุด ส่วนแนวต้าน 1,375-1,380 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,432.38 ล้านบาท ปิดที่ 302.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,332.08 ล้านบาท ปิดที่ 167.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 1,221.48 ล้านบาท ปิดที่ 75.25 บาท ลดลง 1.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,187.95 ล้านบาท ปิดที่ 183.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,098.39 ล้านบาท ปิดที่ 7.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท