นายวิศิษฐ์ องค์พิพัฒกุล กรรมการผู้จัดการ กลุ่มหลักทรัพย์ TNITY เปิดเผยว่า บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปี 57 จะเติบโต 25-30% จากปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตกว่าปีก่อนที่มีรายได้ 675.48 ล้านบาท หลังจาก 9 เดือน มีรายได้แล้วกว่า 716.66 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในปี 57 บริษัทฯตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาด(มาร์เก็ตแชร์) ในส่วนธุริจหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นมาที่ 3.5% จากที่ปีนี้คาดว่ามาร์เก็ตแชร์จะอยู่ที่ราว 2% โดยใน 57 บริษัทฯจะขยายฐานลูกค้าใหม่ในทุกกลุ่ม คือ กลุ่มบุคคล สถาบัน และต่างประเทศ โดยบริษัทฯจะใช้กลยุทธ์การจัดสัมนาใกล้ชิดนักลงทุนถึง 29 ครั้ง ตั้งเป้าที่จะเพิ่มลูกค้าใหม่อีก 1 พันราย จากปัจจุบันมีลูกค้าทั้งหมดราว 3-4 พันราย ในขณะเดียวกันบริษัทตั้งเป้าที่จะมีพอร์ตบริหารการลงทุนส่วนบุคคลสูงถึง 2.2 พันล้านบาท จากปีนี้ที่อยู่ราว 1.9 พันล้านบาท
นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า ในปี 57 บริษัทประเมินดัชนีตลาดหุ้นไทย(SET Index) จะสามารถขึ้นไปที่ 1,550-1,600 จุด และปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยที่ 5 หมื่นล้านบาท/วัน จากปีนี้เฉลี่ยทั้งปีคาดว่าจะอยู่ที่ 4.9 หมื่นล้านบาท/วัน จากความกังวลทางการเมือง โดยเชื่อว่าในช่วงไตรมาส 2/57 จะกลับมาดีขึ้น
ส่วนความกังวลเกี่ยวกับการชะลอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ (QE) นั้นมองว่าจะเป็นเพียงช่วงสั้นๆเท่านั้น เนื่องจากหากมีการชะลอมาตรการ QE จริง ก็เชื่อว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะมีมาตรการอื่นๆเข้ามาทดแทน เช่น การคงดอกเบี้ย ซึ่งคาดว่าเงินทุนจะไหลกลับเข้ามาลงทุนในประเกิดใหม่ รวมถึงประเทศไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ต่างชาติขายออกไปถึง 1.7 แสนล้นบาท ขณะที่หากเทียบ P/E ของไทยในปัจจุบันอยู่ที่ 11.8-11.9 เท่า ซึ่งยังถือว่าต่ำหากเทียบกับต่างประเทศที่ปัจจุบัน P/E อยู่ที่ 15-16 เท่า
"ตลาดหุ้นไทยยังถือว่ามีความหน้าสนใจเนื่องจาก P/E ปัจจุบันอยู่ที่ 11.8-11.9 เท่า ซึ่งหากเทียบกับต่างชาติแล้วเรายังถือว่าต่ำ เรามองว่าหากการเมืองของไทยเริ่มสงบลง ก็มีความน่าสนใจที่จะเข้ามาลงทุน" นายวิศิษฐ์ กล่าว
ส่วนงานด้านวาณิชธนกิจนั้น ปัจจุบันบริษัทฯมีงานที่ปรึกษาทางการเงิน 4-5 ราย และ เป็นผู้นำในการจัดจำหน่าย การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) และการเสนอขายหุ้นแบบเฉพาะเจาะจง (PP) 5-6 ราย โดยจะอยู่ในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ สถาบันการเงิน และพลังงาน ซึ่งจะทำให้ งานด้านวาณิชธนกิจ เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ