ส่องหุ้นไทย H1/57 ไม่สดใส,"กลุ่มส่งออก-อาหาร"ได้ประโยชน์เศรษฐกิจโลกฟื้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday December 13, 2013 10:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

5 โบรกเกอร์ส่องหุ้นไทยปี 57 เห็นพ้องไม่สดใสในช่วงครึ่งปีแรก เหตุปัจจัยการเมืองถ่วง และยังต้องเผชิญโชคจากการลดขนาด QE ของสหรัฐฯด้วย จะส่งผลให้ Flow ไหลออกมาก/น้อยแค่ไหน แต่ทิศทางของตลาดฯยังไม่สิ้นหวัง มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้แต่ขึ้นในกรอบจำกัด อิงไปทางผันผวนมากกว่าตามกระแสข่าวทางการเมืองในประเทศเป็นหลัก

เป้าดัชนี SET ปี 57 มองไว้ในช่วง 1,500-1,650 จุด กำไรของบริษัทจดทะเบียนคาดการณ์เติบโต 10-15% จากที่ปีนี้(2556)โบรกฯมองเป้าดัชนี SET ไว้ที่ 1,400 จุดกันเป็นส่วนใหญ่ และคาดการณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียนในปีนี้จะเติบโต 7-15% โดยกำไรของบริษัทจดทะเบียนในงวดไตรมาส 4/56 มีความเสี่ยงที่จะลดลงจากปัจจัยการเมืองกระทบ

พร้อมมองหุ้นที่น่าลงทุนในปีหน้า(2557)เป็นหุ้นที่เกี่ยวกับการส่งออก เนื่องจากได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว อย่างหุ้นในกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์, กลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี ส่วนหุ้นในกลุ่มอาหารและกลุ่มเดินเรือจะ Turnaround ในปีหน้า

*KTZ มอง H1/57 ตลาดหุ้นไทยลดลง-การเมืองเป็นตัวกำหนด

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้(KTZ)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีแรกของปีหน้า(H1/57)มองว่าทิศทางยังเป็นแนวโน้มการปรับตัวลง ปัจจัยการเมืองในประเทศจะเป็นตัวกำหนดว่าตลาดฯจะถึง bottom เมื่อใด และพร้อมจะ rally กลับได้เมื่อไร ปัจจุบันตลาดฯกำลังหาจุดต่ำสุดอยู่ ซึ่งคาดว่าในช่วงไตรมาส 1/57 อาจจะได้เห็น

นอกจากนี้ ตลาดบ้านเรายังมีความเสี่ยงเกี่ยวกับเศรษฐกิจในประเทศอีกด้วย หลังจากที่ช่วงไตรมาส 4/56 เป็นสูญญากาศ และจะมีปัจจัยเสี่ยงจากปัจจัยนอกประเทศด้วยในเรื่องของการลดขนาด QE

อย่างไรก็ดี ได้มองเป้าหมายดัชนี SET ปี 57 ไว้ที่ 1,500 จุด จากที่ปีนี้ มองเป้าหมายดัชนีฯไว้ที่ 1,400 จุด และคาดว่าปีหน้ากำไรของบริษัทจดทะเบียนจะเติบโตประมาณ 14% จากปีนี้ที่คาดว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนจะเติบโตประมาณ 7%

สำหรับหุ้นที่น่าสนใจเข้าลงทุนในปีหน้าน่าจะเป็นหุ้นเกี่ยวกับการส่งออก(Export)เนื่องจากเศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะของการฟื้นตัว อย่างหุ้นในกลุ่มกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็คทรอกนิกส์ และหุ้นในกลุ่มเดินเรือที่คาดว่าจะกลับมา turnaround อาทิ บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์(ประเทศไทย)(DELTA), บมจ.พรีเชียส ชิพปิ้ง(PSL), บมจ.จีเอฟพีที(GFPT) และบมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร(CPF) เป็นต้น

*BLS มองตลาดหุ้นไทย H1/57 ลำบากพอควร เหตุศก.ยังอ่อนแอ

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการอำนวยการ สายงานวิจัยลูกค้าบุคคล บล.บัวหลวง(BLS) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงครึ่งปีแรกของปีหน้า(H1/57)มองว่าอาจจะแย่กว่าช่วงหลังของปีนี้(H2/57)เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาส 3/56 ออกมาไม่ดี ทั้งการบริโภค และการส่งออกที่ออกมาแย่กว่าที่คิด ซึ่งคาดว่าตัวเลขเศรษฐกิจคงจะยังไม่ดีต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 4/56 และไตรมาส 1/57 ทำให้แม้ว่าจะไม่มีเรื่องการเมืองก็ต้องเจอแรงขายอยู่ดี เพียงแต่ปัจจัยการเมืองเป็นตัวกระตุ้นเพิ่มขึ้น และคาดว่าเศรษฐกิจคงจะอ่อนแอต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 1/57

"ในช่วงครึ่งปีแรกของปีหน้า คงจะลำบากพอมควร จากตัวเลขเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแออยู่ และยังมีเรื่อง QE ที่เป็นจุด start รออยู่ด้วย"นายชัยพร กล่าว

อย่างไรก็ดี ปีหน้าตลาดฯก็ยังมี Growth จากที่คาดว่ากำไรบริษัทจดทะเบียนจะเติบโต 13% และภาพของตลาดฯคงจะเทรดด้วยค่า P/E ที่ต่ำลง แต่การมีกำไรที่เติบโตบ้างทำให้ตลาดฯน่าจะเทรดในระดับที่สูงกว่าปัจจุบันได้ ซึ่งระดับ P/E ที่มองไว้ประมาณใกล้ ๆ 14 เท่า ที่ระดับดัชนี SET แถว 1,540 จุดเป็นเป้าหมายปีหน้า

สำหรับหุ้นที่น่าสนใจลงทุนมองใน Theme ของการส่งออกที่ฟื้นตัว และธุรกิจที่เกี่ยวกับ Global plays จะน่าสนใจ อย่างหุ้นในกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์, กลุ่มอาหาร, กลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี ซึ่งคิดว่ากระแสเม็ดเงินไหลออกจากเอเชีย คงจะทำให้เงินบาทอ่อนค่า และจะเป็นประโยชน์ต่อพวกส่งออก

*KSS มอง H1/57 ตลาดผันผวน รอตั้งรัฐบาลใหม่-เจอลดขนาด QE

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี(KSS)กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปีหน้า(H1/57)ตลาดหุ้นไทยน่าจะมีความผันผวน เนื่องจากยังต้องเสียเวลากับเรื่องของการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ และยังมีความเป็นไปได้สูงที่จะได้เห็นการลดขนาด QE หลังจากที่เศรษฐกิจของสหรัฐฯดูดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ในช่วงครึ่งปีหลัง(H2/57)ตลาดฯน่าจะเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งจะมีความพร้อมทั้งด้านการเมืองและเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ได้มองเป้าดัชนี SET ปีหน้าไว้ที่ 1,573 จุด คิดค่า P/E 15 เท่า และคาดว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนจะเติบโต 11.2% ในปี 57 ส่วนปีนี้คาดว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนจะเติบโตประมาณ 15%

ส่วนหุ้นที่น่าสนใจเข้าลงทุนในปีหน้ามองหุ้นที่ปลอดภัยและควรจะมีอยู่ในพอร์ต ช่วงสั้นมองหุ้นกลุ่มพลังงาน, กลุ่มปิโตรเคมี, กลุ่มอาหาร, กลุ่มอิเล็คทรอกนิกส์ และหุ้นในกลุ่มค้าปลีกบางตัว แนว Global Plays มากกว่า Domestic Plays เพราะเกี่ยวข้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

*TNS มอง Q1/57 ตลาดหุ้นไทยขึ้นยาก เหตุการเมือง-ลดขนาด QE

นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ธนชาต(TNS)กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยในช่วง 3 เดือนแรกของปี 57 คงจะปรับตัวขึ้นได้ยาก แม้จะปรับตัวขึ้นไปได้แต่ก็คงจำกัด โดยคงขึ้นไปเหนือระดับ 1,420 จุด ได้ยาก เนื่องจากยังมีปัจจัยการเมือง และการลดขนาด QE ปกคลุมอยู่ แต่สำหรับนักลงทุนระยะยาวก็เป็นโอกาสสะสม

"ถ้าเศรษฐกิจโลกกลับมาดีจริง ๆ ตลาดฯจะค่อย ๆ ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจที่โต คาดว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนในปีหน้าจะเติบโต 10-15% ส่วนเป้าหมายดัชนี SET ปีหน้ามองไว้ที่ 1,580 จุด คิดค่า P/E ประมาณ 14 เท่า"นายอดิศักดิ์ กล่าว

สำหรับหุ้นที่น่าสนใจลงทุนในปีหน้าคงเป็นหุ้นในกลุ่มอาหาร อย่างหุ้น CPF, TUF และหุ้นในกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ นอกจากนี้หุ้นที่ให้เงินปันผลดี ๆ ก็ยังน่าสนใจด้วย เพราะอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำ

*KTBS มองปีหน้าตลาดหุ้นไทยยังต้องเผชิญความผันผวน

นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี(ประเทศไทย)หรือ KTBS กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยในปีหน้าภาพรวมยังมองว่าน่าจะอยู่ในระดับที่สูงกว่าตอนนี้ แต่ก็ยังต้องเผชิญความผันผวนเช่นเดียวกับปีนี้ จากภาพการเมืองที่จะสร้างความผันผวนต่อไป ยังไม่สามารถวางใจได้ แม้ว่าจะมีสภาใหม่เกิดขึ้นมาได้ ซึ่งเรื่องการเมืองคงจะต้องติดตามระยะยาว

"แม้จะมีสภาใหม่เกิดขึ้นมา เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะไม่มีปัญหาทางการเมืองอีก ซึ่งเรายังไม่เชื่อว่าจะทำได้ดีอย่างไร้ที่ติกับสภาพสังคมไทย"นายปริญทร์ กล่าว

อีกทั้ง ตลาดฯจะต้องเจอกับเรื่องการลดขนาด QE เมื่อเข้าสู่ปี 57 แต่เมื่อถึงเวลาจริง Flow อาจจะไม่ไหลออกแรงก็ได้ เพราะได้ไหลออกไปล่วงหน้าบ้างแล้ว จึงไม่ค่อยห่วงเท่าไร

นายปริญทร์ กล่าวว่า เป้าหมายดัชนีหุ้นไทยในปีหน้ามองไว้ที่ 1,650 จุด สูงกว่าเป้าหมายปีนี้มองไว้ที่ 1,400 จุด และคาดการณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียนปีหน้าจะเติบโต 12% จากปี 56 ที่มองว่ากำไรจะเติบโตประมาณ 15% แต่ตอนนี้เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนในปีนี้จะทำได้อย่างคาดการณ์ไว้ เนื่องจากมีปัจจัยการเมืองถ่วงทำให้อาจจะมีกำไรต่ำกว่าที่คาดไว้ก็ได้

พร้อมแนะนำหุ้นที่น่าสนใจลงทุนในปีหน้าเป็นหุ้นในกลุ่มพลังงาน และหุ้นที่จะ turnaround เป็นหุ้นในกลุ่มอาหาร รวมทั้งหุ้นในกลุ่มค้าปลีกก็น่าสนใจ เพราะเป็น defensive แม้จะมีปัญหาการเมือง แต่การจับจ่ายใช้สอยก็ยังหนีไม่พ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ