ปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ธุรกิจสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของกรุงศรีเติบโตสูงขึ้นมาจากกลยุทธ์ของธนาคาร คือ ความร่วมมือกับผู้พัฒนาอสังหาฯ (Developer Strategy) ในการทำงานเชิงรุกร่วมกับผู้พัฒนาอสังหาฯ ชั้นนำของประเทศ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า กลยุทธ์ด้านช่องทางจัดจำหน่าย (Distribution Strategy) โดยกระจายทีม Direct Sale เป็นแนวรุกออกให้บริการลูกค้าในพื้นที่สำนักงานขายโครงการ เพื่ออำนวยความสะดวกในการบริการ พร้อมเครือข่ายสาขาที่มีคุณภาพและเชี่ยวชาญในสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ที่มีกว่า 600 สาขาทั่วประเทศทำหน้าที่ทั้งแนวรุก และแนวรับ และ กลยุทธ์ด้านการปฏิบัติงาน (Process Development Strategy) ในการลดขั้นตอน และเพิ่มประสิทธิภาพในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ เพื่อความรวดเร็ว
สำหรับพอร์ตสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของกรุงศรี คาดว่า จะมียอดสินเชื่อใหม่ราว 36,000 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2556 โดยแบ่งเป็นสินเชื่อเพื่อคอนโดมิเนียม 31% สินเชื่อเพื่อบ้านเดี่ยว 41% และเมื่อรวมพอร์ตสินเชื่อคงค้างในปัจจุบันของกรุงศรีจะอยู่ที่ 120,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% หรือราว 18,000 ล้านบาทเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ขณะเดียวกันอัตราการผิดนัดชำระหนี้ (Delinquency rate)เกินกว่า 30 วัน ลดลงอยู่ที่ 2.42% เช่นเดียวกับอัตราสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ที่ลดลงอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ 1.29% ซึ่งลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2555 ถึง 22% (1.65% เป็น 1.29%)
ขณะที่ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยล่าสุด (ณ เดือนกันยายน 2556) ระบุว่า อัตราสินเชื่อด้อยคุณภาพโดยรวมของตลาดอสังหาฯ อยู่ที่ระดับ 4.57%
สำหรับทิศทางธุรกิจสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในปีหน้าในภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะยังเติบโตอย่างต่อเนื่องประมาณ 8-10% เนื่องจากความกังวลว่าจะเกิดวิกฤติฟองสบู่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คลายตัวลง ขณะที่ผู้ประกอบการระมัดระวังในขยายการลงทุนมากขึ้น ทำให้ตลาดเกิดความสมดุล โดยในกรุงเทพฯ ยังเน้นโครงการที่อยู่อาศัยในบริเวณชานเมือง และตามแนวรถไฟฟ้า ขณะที่ต่างจังหวัดจะเน้นหัวเมืองหลักด้านเศรษฐกิจ สำหรับกรุงศรีฯ คาดว่า สินเชื่อที่อยู่อาศัยจะมีอัตราการเติบโตที่ดีสอดคล้องกับตลาด โดยจะยังคงเน้นเรื่องคุณภาพของลูกค้า และการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบควบคู่ไปกับแนวกลยุทธ์หลักของธนาคาร