การตอบรับที่ดีของนักลงทุนนี้สะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัท และในอนาคตก็มีแนวโน้มที่จะเติบโตสอดคล้องไปกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีด้านการสื่อสารซึ่งมีการพัฒนาขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปี อีกประการที่สำคัญในเสียงตอบรับหุ้น SPVI ที่ดีในครั้งนี้คือการกำหนดเสนอราคาเสนอขายที่ 0.90 บาท ต่อหุ้น ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม เมื่อเทียบกับค่า P/E14.02 เท่า
อีกทั้งยังมีส่วนลดประมาณ 49.88% จาก P/E Ratio ของตลาดหลักทรัพย์ mai ย้อนหลังเฉลี่ยในช่วงเวลาระยะเวลา 3 เดือน (1 ก.ย.– 30 พ.ย. 2556) ซึ่งเท่ากับ 27.97 เท่า และมีส่วนลดประมาณ 61.78% จาก P/E Ratio เฉลี่ยของบริษัทจดทะเบียนที่มีลักษณะการประกอบธุรกิจคล้ายคลึงกับ SPVI ในช่วงเวลาระยะเวลาย้อนหลัง 3 เดือนเช่นเดียวกันซึ่งเท่ากับ 36.69 เท่า ดังนั้นเชื่อว่าเมื่อเข้าซื้อขายวันแรกน่าจะสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับนักลงทุนได้
สำหรับโครงสร้างการถือหุ้นของ SPVI ภายหลังการเสนอขายหุ้นไอพีโอ 3 อันดับแรก คือ 1. IT CITY ถือหุ้น 40% หลังเสนอขายลดเหลือ 29% 2.กลุ่มวรญาณโกศล ถือหุ้น 32.93% หลังเสนอขายลดเหลือ 23.87% และ 3.กลุ่มบุคคลอื่นๆ ถือหุ้น 27.07% หลังเสนอขายลดเหลือ 19.63% จำนวนหุ้นไอพีโอที่เสนอขายประชาชนทั่วไปจำนวน 110 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้นใน SPVI รวมเท่ากับ 27.50%
นายไตรสรณ์ วรญาณโกศล กรรมการผู้จัดการ SPVI กล่าวว่า หุ้น SPVI ที่ได้รับความสนใจเข้ามาจองซื้อหุ้นจำนวนมากท่ามกลางสภาวะการเมืองภายในประเทศที่ผันผวนอยู่ในขณะนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัท และตัวสินค้า Apple รวมถึงผู้บริโภคมีความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์การสื่อสารที่มีคุณภาพให้เกิดประโยชน์สูงสุดมากขึ้น ซึ่งมองว่าในอนาคตอันใกล้ที่ระบบโทรคมนาคมพัฒนามากขึ้นอุปกรณ์การสื่อสารที่มีคุณภาพจะเข้ามามีบทบาทกับชีวิตประจำวันของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ซึ่งสินค้าของ Apple สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างดี
บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ไปขยายสาขาและศูนย์บริการใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และปรับปรุงและพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อขยายธุรกิจให้เติบโตต่อเนื่องไปในอนาคตได้อย่างยั่งยืนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้กับผู้ถือหุ้นต่อไป