ทั้งนี้ หลักทรัพย์ที่อยู่ในดัชนี SET50 มีมูลค่าตามราคาตลาดรวม 9,035,908 ล้านบาท คิดเป็น 75.16 % ของมูลค่าตามราคาตลาดของตลาดหลักทรัพย์โดยรวมที่ 12,023,026 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2556
ส่วนดัชนี SET100 มีหลักทรัพย์ใหม่ 11 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ. หลักทรัพย์ เอเซีย พลัส (ASP) บมจ. รถไฟฟ้ากรุงเทพ (BMCL) บมจ. โรงพยาบาลจุฬารัตน์ (CHG) บมจ. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) บมจ. จีเอฟพีที (GFPT) บมจ. เจ มาร์ท (JMART) บมจ. แนเชอรัล พาร์ค (N-PARK) บมจ. เอสวีไอ (SVI) บมจ. ทิปโก้แอสฟัลท์ (TASCO) บมจ. ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม (TFD) และ บมจ. ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น (TICON)
สำหรับมูลค่าตามราคาตลาดรวมของหลักทรัพย์ในดัชนี SET100 ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2556 นั้นอยู่ที่ระดับ 9,930,168 ล้านบาท คิดเป็น 82.59 % ของมูลค่าตามราคาตลาดของหลักทรัพย์ทั้งหมดในตลาดหลักทรัพย์
ในขณะที่ SETHD มีหลักทรัพย์ใหม่ 2 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ. อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA) และ บมจ. หลักทรัพย์ เอเซีย พลัส (ASP) ทั้งนี้ หลักทรัพย์ที่อยู่ในดัชนี SETHD รอบนี้มีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลเฉลี่ย 4.18 % ซึ่งสูงกว่าอัตราผลตอบแทนเงินปันผลของตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยรวม (เฉลี่ย 2.90 %)
นางเกศรา กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่ต้นปี 2557 เป็นต้นไปนั้น หมวดธุรกิจของดัชนีตลาดหลักทรัพย์จะเพิ่มขึ้นเป็น 28 หมวดธุรกิจ โดยหมวดธุรกิจใหม่ที่เพิ่มขึ้น คือ หมวดบริการรับเหมาก่อสร้าง (Construction Services) เป็นการเพิ่มหมวดธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง (Property & Construction) ที่ปัจจุบันประกอบด้วยหมวดธุรกิจ 3 หมวด คือ หมวดวัสดุก่อสร้าง (Construction Materials) หมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Property Development) และหมวดกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund & REIT)