สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB176A, LB155A และ LB21DA (รุ่นอายุ 3.5 ปี, 1.4 ปี และ 8.0 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 3,264 ล้านบาท หรือคิดเป็น 54% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) (MBK207A) มูลค่า 307.9 ล้านบาท
2. หุ้นกู้บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (CPF185A) มูลค่า 148.7 ล้านบาท
3. หุ้นกู้บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (CPF188A) มูลค่า 144.4 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 601.1 ล้านบาท หรือคิดเป็น 79.3% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 6,681 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 6,093 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -1,230 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.34% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.53% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.01%
Yield Curve ค่อนข้างนิ่งในทุกช่วงอายุตราสาร เปลี่ยนแปลงไม่เกิน 1 bp. ปริมาณการซื้อขายเบาบาง เนื่องจากนักลงทุนรอติดตามการประชุม FOMC วันพรุ่งนี้ ซึ่งตลาดคาดว่า Fed อาจพิจารณาปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมครั้งนี้ สำหรับนักลงทุนต่างชาติมีแรงขายในพันธบัตรระยะสั้น ยอดขายสุทธิ (NET SELL) เท่ากับ 1,230 ล้านบาท