ส่วนสถานการทางการเมืองในประเทศก็ยังต้องมีการติดตาม แต่อย่างไรก็ตามหากยังไม่เกิดสถานการที่มีความรุนแรงเกิดขึ้น ก็จะยังไม่มีผลกระทบมากนักต่อดัชนีตลาดหุ้นไทย
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้อยู่ทั้งแดนบวกและแดนลบ แกว่งตัวรอผลการประชุม ปริมาณการซื้อไม่มาก
พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,325 จุด และ แนวต้าน 1,350 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(17 ธ.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 15,875.26 จุด ลดลง 9.31 จุด(-0.06%) ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,781.00 จุด ลดลง 5.54 จุด (-0.31%) ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,023.68 จุด ลดลง 5.84 จุด(-0.14%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 5.39 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 7.31 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 8.82 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 6.11 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 8.75 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 5.75 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น 8.96 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 0.67 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(17 ธ.ค.)ที่ 1,337.18 จุด เพิ่มขึ้น 8.78 จุด(+0.66%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 733.75 ล้านบาท เมื่อ 17 ธ.ค.56
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(17 ธ.ค.)ที่ 97.22 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.26 ดอลลาร์ฯหรือ 0.27%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(17 ธ.ค.)ที่ 5.67 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.12/13 แนวโน้มอ่อนค่าตามภูมิภาค เก็งเฟดลด QE บางส่วนปีนี้
- นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ประกาศเคลื่อนมวลชนขับไล่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกจากตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 19-20 และ 22 ธ.ค.56 โดยในวันที่ 19 ธ.ค. จะเดินจากผ่านฟ้าไปนางเลิ้ง เพชรบุรี อโศก สุขุมวิท นานา เพลินจิต ชิดลม ผ่านอุรุพงษ์ และกลับมาราชดำเนินเพื่อเชิญชวนชาวกทม.ออกมาไล่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ด้วยกัน และขออภัยชาว กทม.ล่วงหน้าที่จะทำให้รถติด
- "ทนง" เสนอเลื่อนเลือกตั้ง 1-2 เดือนเพื่อร่วมตกลงกติกาที่ทุกฝ่ายยอมรับ แต่ค้านเลื่อนยาวเป็นปี หวั่นกระทบเบิกจ่ายภาครัฐ คาดยืดเยื้อปีหน้า เศรษฐกิจโตแค่ 4% ด้านเอกชนเผยการเมืองวุ่น เริ่มกระทบยอดขายไตรมาสแรกปีหน้า ขณะครม.กังวลเบิกจ่าย "กิตติรัตน์" เล็งถกกกต.เดินหน้าบางนโยบาย
- ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมสนับสนุน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี)ในกลุ่มผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ และกลุ่มไฟฟ้า ได้ปรับลดกำลังการผลิตสินค้าลง 20-30% เทียบกับช่วงต้นปี เพราะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่กำลังซื้อลดลง เศรษฐกิจโลก และสถานการณ์ทางการเมือง
- การประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันที่ 17 ธ.ค.ได้หารือผลกระทบเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองและการยุบสภาว่าจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจหรือไม่ โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)ต้องกลับไปทำตัวเลขแนวโน้มเศรษฐกิจปี 56 และ 57 ใหม่ เนื่องจากตัวเลขที่เสนอไม่มีการประเมินผลกระทบเหตุการณ์ทางการเมือง โดย สศช.จะสรุปให้เสร็จภายในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ และเสนอครม.ต่อไป
- ผู้ว่าฯแบงก์ชาติเผยเงินบาทไม่แตกต่างกับสกุลเงินในภูมิภาคทรงตัวหรือแข็งค่าเล็กน้อย และกระแสเงินทุนไหลเข้า-ออกของนักลงทุนต่างชาติก็ไม่มีอะไรตื่นเต้น ระบุช่วงการประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ขณะนี้ตลาดการเงินไทยยังปกติดี ประเมินข้อมูลภาคการคลังใหม่ทั้งยวงเสนอบอร์ด กนง.วันที่ 22 ม.ค.นี้
*หุ้นเด่นวันนี้
- IVL(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 27 บาท มั่นใจปีหน้ารายได้โตไม่ต่ำกว่า 15% พร้อมทบทวนแผนลงทุนใหม่สร้างผลตอบแทนในระยะยาว ทั้งการเข้าซื้อกิจการ PET เพิ่มคาดรู้ผลต้นปีหน้า ทั้งนี้ มองว่าโรงงานโพลีเอสเตอร์และโรงงาน MEG ที่สหรัฐฯ จะเป็นตัวช่วยหนุนผลประกอบการในปี 57 โดยเราเชื่อว่า ผลประกอบการ 1H56 ที่ผ่านมาเป็นจุดตำสุดของบริษัทไปแล้ว
- CKP(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 18 บาท ทุ่ม 6 พันล.ลุยโซลาร์ฟาร์ม กำไรปี 57 เติบโต 20% โดยเตรียมยื่นประมูลตั้งโรงไฟฟ้า SPP 8 ช่วงต้นปี 57 พ่วงแผนตั้งโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ รวมราว 100 เมกะวัตต์ คาดใช้เงินลงทุนกว่า 6 พันล้านบาท ซึ่งเรามองว่ายังเร็วเกินไปที่จะประเมินรายได้ เนื่องจากยังมีความเสี่ยงเกี่ยวกับเงินทุนและข้อจำกันการประมูล อย่างไรก็ตาม มองว่ารายได้ตั้งแต่ 4Q56 เป็นต้นจะเติบโตจากโครงการ BIC-1
- AI(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 24 บาท รับปัจจัยหนุนบริษัทลูกอย่าง AIE เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ขาย IPO วันที่ 23-24 ธ.ค.56 ราคา 4.75 บาท/หุ้น แม้วันเข้าซื้อขายในตลาดอาจถูกเลื่อนจากวันที่ 27 ธ.ค.56 ไปเป็นวันที่ 6 ม.ค.57 แต่เงินสดจากการขายหุ้น AIE จะถูกรับรู้เข้ามาใน 4Q56 เลยราว 1.3 พันล้านบาท คาดบันทึกเป็นกำไรราว 1 พันล้านบาท หรือราว 2 บาท/หุ้น มีโอกาสประกาศจ่ายปันผลพิเศษในงวดปี 56 เพิ่มอีกราว 1.2-1.6 บาท/หุ้น จากปันผลปกติที่คาด 1 บาท/หุ้น
- CPN(เคเคเทรด)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 61.50 บาท บริษัทมีเป้าหมายที่จะขยายพื้นที่ค้าปลีกในปี 2556-2558 ราว 8-13% ต่อปี โดยการสร้างห้างสรรพสินค้าเพิ่มอีก 3-5 แห่งต่อปีในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ผลการดำเนินงานในปี 2557 และ 2558 พลิกกลับมามีกำไรสุทธิขยายตัวราว 27% และ 19% YoY ตามลำดับจากในปี 2556 ที่กำไรสุทธิลดลง 2% YoY นอกจากนี้มองว่าแผนการขายสินทรัพย์ในปี 2556-2557 จะเป็น Upside ต่อราคาหุ้นในอนาคตด้วย
- TMB(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)เป้า 2.55 บาท ราคาหุ้นปรับตัวลงถึง -16.5% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เทียบกับ กลุ่มธนาคารที่ -7.9% และ SET INDEX -5.8% ขณะที่ผลประกอบการปี 2557 คาดจะเติบโต +43.2% yoy เป็น 8,395 ล้านบาท จึงแนะ"ซื้อเก็งกำไร"เป้าหมายเพื่อขายทำกำไรระยะสั้นบริเวณ 2.50 บาท +/-