ขณะที่ Market capitalization ของ SET อยู่ที่ 12,023,026 ล้านบาท และของ mai อยู่ที่ 182,732 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อน 4.54% และ 3.46% ตามลำดับ ตามทิศทางของภาพรวมดัชนี ส่วน Forward P/E ratio ของ SET อยู่ที่ 14.20 เท่า ลดลงจาก 14.67 เท่าในเดือนก่อนหน้า แต่ยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาค ซึ่งอยู่ที่ 13.75 เท่า สำหรับ mai อยู่ที่ 20.52 เท่า เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 20.50 เท่าในเดือนก่อนหน้า
อัตราเงินปันผลตอบแทนของ SET อยู่ที่ 3.17% และ mai อยู่ที่ 1.75% เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน
ตลท.ระบุอีกว่า มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai ในเดือน พ.ย.56 อยู่ที่ 35,025 ล้านบาท ลดลง 10.37% จากเดือนก่อนหน้า และลดลง 2.53% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับในช่วง 11 เดือนแรกของปี 56 มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมอยู่ที่ 52,052 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63.57% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ ผู้ลงทุนต่างประเทศขายสุทธิที่ 48,605 ล้านบาท ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2556 ผู้ลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 153,943 ล้านบาท ขณะที่ผู้ลงทุนกลุ่มอื่นๆ เป็นผู้ซื้อสุทธิ
"ความไม่แน่นอนของนโยบายการเงินของสหรัฐอเมริกาส่งผลกระทบต่อเนื่องต่อตลาดหลักทรัพย์ไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ประกอบกับไทยได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองในประเทศ ส่งผลให้ผู้ลงทุนต่างประเทศขายสุทธิในตลาดหลักทรัพย์ไทยถึง 48,605 ล้านบาท มากกว่าประเทศอื่นในภูมิภาค" ตลาดฯ ระบุ
ด้านการระดมทุน บริษัทจดทะเบียนใน SET และ mai มีการระดมทุนรวม 30,176 ล้านบาท แยกเป็นการระดมทุนในตลาดแรก 7,632 ล้านบาท และระดมทุนตลาดรอง 22,544 ล้านบาท ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2556 มีมูลค่าการระดมทุนสะสมทั้งสิ้น 249,136 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 73% จากปีก่อนหน้า
ส่วนภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เดือน พ.ย. 56 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 50,713 สัญญา ลดลง 20.10% จากเดือนก่อนหน้า และในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2556 มีปริมาณสัญญาซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 68,919 สัญญา เพิ่มขึ้น 57.38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยปริมาณการซื้อขายส่วนใหญ่มาจาก Single Stock Futures และ SET50 Index Futures
Single Stock Futures มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 27,457 สัญญา ส่วน SET50 Index Futures มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 17,065 สัญญา