นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชียพลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะดีดตัวขึ้นในช่วงสั้น ตามตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างดีดตัวขึ้น เช่นเดียวกับตลาดสหรัฐฯ หลังจากที่มีการประกาศลดขนาด QE ลงเดือน 10,000 ล้านเหรียญฯต่อเดือน
อย่างไรก็ดี ตลาดฯคงจะฝ่ากระแสเงินที่ไหลออกไม่ได้ในช่วงนี้ ซึ่งตลาดบ้านเราก็มีปัจจัยการเมืองกดดันอยู่ด้วย ดังนั้นเมื่อดัชนีฯขึ้นมาใกล้ระดับแนวต้านที่ 1,360 จุด ก็อาจจะเจอแรงขายทำกำไร ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,340 จุด ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(18 ธ.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,167.97 จุด เพิ่มขึ้น 292.71 จุด(+1.84%) ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,810.65 จุด เพิ่มขึ้น 29.65 จุด (+1.66%) ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,070.06 จุด เพิ่มขึ้น 46.38 จุด(+1.15%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 221.63 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 5.38 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 260.63 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 51.35 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 22.16 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 21.66 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 61.85 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 0.36 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(18 ธ.ค.)ที่ 1,349.86 จุด เพิ่มขึ้น 12.68 จุด(+0.95%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,221.19 ล้านบาท เมื่อ 18 ธ.ค.56
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(18 ธ.ค.)ที่ 97.80 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.58 ดอลลาร์ฯ
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(18 ธ.ค.)ที่ 5.59 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.33/35 อ่อนค่าตามภูมิภาค หลังเฟดทยอยลด QE เริ่มต้นปี 57
- กกต.นัดแถลงข่าววันนี้ แสดงท่าทีต่อรัฐบาล-กปปส. เผยเป็นทางออกต่อสถานการณ์การเมืองและการจัดการเลือกตั้ง แย้มอาจเป็นทางออกประเทศ ด้านเวทีเครือข่าย 7 องค์กรภาคเอกชนพบแกนนำ นปช. "ณัฐวุฒิ" ขู่ถ้าล้มเลือกตั้ง "แดงมาแน่" ขณะที่ "จตุพร" หวั่นสงครามกลางเมือง ไม่สน ปชป.บอยคอต แต่กลัวป่วนจนวุ่นนำไปสู่รัฐประหาร ส่วน 5 องค์กรวิชาชีพสื่อเสวนาหาทางออกประเทศ ชงสื่อเป็นตัวกลางประสาน 2 ฝ่ายพูดคุย
- นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ได้เสนอแผนการเก็บรายได้ปีงบประมาณ 2557 ให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง รับทราบ เพื่อดำเนินการให้การเก็บรายได้ปี 2557 ใกล้เคียงกับเป้าที่ตั้งไว้ 2.25 ล้านล้านบาท แม้การเก็บรายได้ในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณจะเกินเป้าอยู่เล็กน้อย แต่สัญญาณการเก็บรายได้มีความเสี่ยงจะต่ำกว่าเป้า เนื่องจากเศรษฐกิจในปีนี้ขยายตัวต่ำกว่าคาดการณ์
- "สมศักดิ์ ปณีตัธยาศัย" นายกสมาคมกุ้งไทย เปิดเผยว่า การส่งออกกุ้งไทยปี 2557 จะขยายตัว 20% ตามผลผลิตกุ้งที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.2 แสนตัน จากปี 2556 ที่มีผลผลิตและส่งออกประมาณ 2.6 แสนตัน มูลค่าประมาณ 6-7 หมื่นล้านบาท โดยปีหน้าราคากุ้งจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงประมาณ 10% จากปีนี้ที่กุ้งขนาด 70 ตัว/กิโลกรัม (กก.) อยู่ที่ 270 บาท/กก.
- ตลาดเผย 11 เดือนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย สูงสุดในภูมิภาค คาดมีโอกาสเห็นแรงขายแตะ 2 แสนล้านบาทสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันขายไปแล้ว 1.89 แสนล้าน สาเหตุหลัก ผลกระทบคิวอีสหรัฐ มากกว่าการเมือง ชี้ต่างชาติจับตาดูการเลือกตั้ง 2 ก.พ.2557 หากไม่ชัดเจน อาจชะลอลงทุนต่อ
*หุ้นเด่นวันนี้
- SPVI(ฟินันเซีย ไซรัส)เข้าเทรดวันนี้วันแรก ในตลาด MAI บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าตรา Apple ในไทย มีสาขาทั้งหมด 17 แห่ง และมีจุดจำหน่ายสินค้า Apple ใน IT City และ Big C รวม 54 สาขา และมีแผนขยายสาขา iStudio/iBeat 2 แห่ง และ U-Store 2 แห่ง รวมทั้งใน IT City อีก 10 แห่งในช่วงปี 2014-15 สำหรับกำไรในงวด 9M13 ลดลง 65% Y-Y เป็น 10.4 ล้านบาทจากรายได้ของคอมพิวเตอร์ลดลงและค่าใช้จ่ายขายและบริหารสูงขึ้น แต่คาดกำไรใน 4Q13 จะฟื้นจากการเปิดตัวเครื่อง iPhone 5s, iPhone 5c กลาง ก.ย. และ iPad Air รุ่นใหม่ กลาง พ.ย. และการฟื้นจะเร่งตัวขึ้นในปี 2014 จากการเปิดสาขาใหม่
ทั้งนี้ คาดกำไรก้าวกระโดด 203% Y-Y เป็น 41 ล้านบาท (0.10 บาท/หุ้น) ราคา IPO ที่ 0.90 บาทคิดเป็น Forward PE เพียง 8.7 เท่า เราประเมินมูลค่าพื้นฐานปีหน้าที่ 1.35 บาท (PE 13 เท่า)
- HEMRAJ(ฟินันเซีย ไซรัส)ปรับประมาณการกำไรปกติและกำไรสุทธิปี 2013 ขึ้น 6% และ 66% ตามลำดับ โดยใน 4Q13 จะมีกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน HPF ประมาณ 1.5 พันล้านบาท (ขายหน่วย 16-23 ธ.ค.) สำหรับปี 2014 คาดกำไรปกติโต 35% สูงสุดในกลุ่ม HEMRAJ ยังคงเป็น Top pick ในกลุ่มนี้ ราคาเป้าหมายปีหน้า 5 บาท