ทั้งนี้ บริษัทร่วมทุนในญีปุ่นได้เซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้า(PPA) แล้วจำนวน 6 โครงการ รวมกำลังการผลิต 1,000 เมกะวัตต์ มูลค่าเงินลงทุนทั้งโครงการรวม 1 หมื่นล้านบาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างทำการสอบทานงบการเงิน((Due diligence) ของแต่ละโครงการ น่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ 2-3 โครงการก่อนกลางปีหน้า
นายพงษ์ดิษฐ กล่าวว่า บริษัทยังมองหาการลงทุนโซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่นเพิ่มเติมอีก เพราะมีอัตราผลตอบแทนที่ดี โดยสามารถขายไฟฟ้าได้สูงราวยูนิตละ 13-14 บาท
ส่วนแผนลงทุนโซลาร์ฟาร์มในออสเตรเลีย กำลังผลิต 20 เมกะวัตต์ได้รับใบอนุญาตแล้ว คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 1.3 พันล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างคัดเลือกผู้รับเหมา และน่าจะเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบได้ในช่วงต้นปี 58
ขณะที่โรงไฟฟ้าพลังงานลมในออสเตรเลีย ปรับลดขนาดลงเหลือ 160 เมกะวัตต์ จากเดิม 180 เมกะวัตต์ ซึ่งได้รับใบอนุญาตแล้วเช่นกัน คาดว่าจะสามารถจ่ายกระแสไฟผ้าเข้าระบบได้ภายในปี 58