อย่างไรก็ตาม ตลท.จะมีการประเมินปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของตลาดหลักทรัพย์ช่วง ม.ค.หรือต้น ก.พ. 57 เนื่องจากขณะนี้ยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้
ทั้งนี้ ในปี 56 ตลท.ประสบความสำเร็จในเรื่องที่สำคัญ ดังนี้ 1. มูลค่าซื้อขายหุ้นเฉลี่ยต่อวันปรับเพิ่มเป็นประมาณ 5.1 หมื่นล้านบาท (หรือประมาณ 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ) สูงที่สุดในภูมิภาคอาเซียนและสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 2. มูลค่าตลาดรวมของหุ้น IPO อยู่ที่ประมาณ 3.4 แสนล้านบาท ทำสถิติสูงสุดตั้งแต่เปิดดำเนินการ และมีหุ้นกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน BTSGIF เป็นหุ้น IPO ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน
3. MSCI เพิ่ม 5 หลักทรัพย์ไทยในการคำนวณดัชนีของ MSCI Global Standard Indices ซึ่งเป็นการเพิ่มจำนวนหลักทรัพย์ที่มากที่สุดในเอเชีย 4. มี 3 บริษัทจดทะเบียนไทยเป็นองค์ประกอบในดัชนี Dow Jones Sustainability Index (DJSI) มากที่สุดในอาเซียน และ 5. บริษัทจดทะเบียนไทยยังมีคะแนน ASEAN CG Scorecard สูงสุดในภูมิภาคอีกด้วย
ด้านนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการ ตลท. กล่าวว่า ตลท.พร้อมผลักดันตลาดทุนให้เติบโตอย่างยั่งยืนใน 3 ปีข้างหน้า (ปี 57-59) โดยปี 57 จะมุ่งขยายฐานบริษัทจดทะเบียนและผู้ลงทุนอย่างมีคุณภาพ เพื่อรองรับความไม่แน่นอนทั้งจากปัจจัยภายในและต่างประเทศที่สูงขึ้น พร้อมเป็นผู้เชื่อมโอกาสการลงทุนในกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตในระดับภูมิภาค
"การขยายฐานสู่ระดับภูมิภาค โดยเฉพาะกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ได้แก่ กัมพูชา พม่า ลาว และเวียดนาม ตลาดหลักทรัพย์เล็งเห็นว่ากลุ่มประเทศเหล่านนี้มีการเติบโตทางเศรษฐกิจและมีความต้องการระดมทุนสูง ซึ่งนอกจากจะเปิดช่องทางการเข้าจดทะเบียนของบริษัทโฮลดิ้งแล้ว ยังมีแผนจะสร้างกฎเกณฑ์เพื่อรองรับรูปแบบการระดมทุนที่หลากหลาย เช่น กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการจดทะเบียนของบริษัทต่างชาติในรูปแบบต่างๆ"นายจรัมพร กล่าวเสริม
ขณะเดียวกัน เตรียมปฏิรูปตลาดทุนใน 4 ด้านที่สำคัญ ได้แก่ 1. ยกระดับความรู้พื้นฐานทางการเงินในทุกระดับ 2. พัฒนาตลาดตราสารหนี้ให้เข้าถึงได้ง่าย 3. สร้างธุรกิจตราสารทางการเงินที่อ้างอิงทองคำแท่ง และ 4. พัฒนาเครื่องมือบริหารความเสี่ยงราคาสินค้าเกษตร หวังสร้างเสถียรภาพของตลาดทุนไทยและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ นอกจากนี้ พร้อมให้บริการระบบซื้อขายอนุพันธ์ใหม่ภายในกลางปีนี้ หลังจากที่ระบบซื้อขายหุ้นใหม่ SET CONNECT สามารถรองรับปริมาณซื้อขายสูงที่สุดตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการ
ตลท.จะเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างต่อเนื่อง โดยพร้อมให้บริการระบบซื้อขายใหม่สำหรับตราสารอนุพันธ์ภายในกลางปี 57 ซึ่งจะอยู่บนรูปแบบเดียวกบระบบซื้อขายหุ้น SET Connect เพื่อเพิ่มโอกาสการลงทุนให้เพิ่มขีดความสามารถส่งคำสั่งซื้อขาย ระหว่างตลาดหุ้นและตลาดอนุพันธ์ได้ในคราวเดียวกัน พร้อมเปิดให้ระบบชำระราคาใหม่ที่เป็นระบบมาตรฐานสากล และสนับสนุนการซื้อขาย Multi-Currency และ Multi-Market
นายสถิตย์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้เตรียมหารือกรมสรรพากรในการแก้เกณฑ์การเก็บภาษีของบริษัทจดทะเบียน(บจ.) ที่เข้าไปลงทุนในต่างประเทศ เพื่อให้นักลงทุนนำเงินปันผลที่ได้จากการลงทุนในต่างประเทศนำเม็ดเงินเข้ามาลงทุนในไทย ซึ่งเกณฑ์ดังกล่าวจะทำเหมือนประเทศสิงคโปร์และฮ่องกง
"คาดหวังว่าจะต้องรีบคุยในปีหน้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบจ.ขนาดใหญ่" ประธานกรรมการ ตลท.กล่าว