(เพิ่มเติม) KBANK ตั้งเป้าปี 57 รายได้ค่าธรรมเนียมโต 20-23% สินเชื่อรายย่อยโต 10-13%

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 24, 2013 12:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย(KBANK) ตั้งเป้าปี 57 รายได้ค่าธรรมเนียมเติบโต 20-23% จากผลิตภัณฑ์หลัก อย่างบัตรเดบิต ที่จะมีการออกบัตรเดบิตลายใหม่ต่อเนื่อง หลังจากประสบความสำเร็จในการออกบัตรแองกี้ เบิร์ด คิดตี้ โอราเอม่อน มาแล้ว รวมทั้งการออกบัตรร่วมกับพันธมิตร และบัตรสำหรับเอสเอ็มอี อีกทั้งจะพัฒนาบริการโอนเงิน และระบบชำระเงินให้ลูกค้าใช้สะดวกรวดเร็วขึ้น
"สัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมปี 56 เราแบ่งเป็นประกัน 28% บัตรเครดิต 27% การทำธุรกรรม 33% และที่เหลือเป็นอย่างอื่น ซึ่งส่งผลให้รายได้จากค่าธรรมเนียมเติบโตอยู่ที่ 40% ของรายได้รวมของธนาคาร เติบโตกว่าในทุกรายได้"นายปกรณ์ กล่าว

ทั้งนี้ ด้านสินเชื่อปี 57 ธนาคารฯคาดว่าสินเชื่อรายย่อยรวมของธนาคารฯจะเติบโตประมาณ 10-13% เนื่องจากคาดว่าเศรษฐกิจของประเทศจะเติบโตได้ 3.7-4.5% จากปีนี้คาดว่าจะเติบโตราว 2.7% โดยเชื่อว่าการส่งออกของประเทศปรับตัวดีขึ้นจากที่เศรษฐกิจสหรัฐ ยุโรป และจีน เริ่มเห็นการฟื้นตัว โดยสินค้าที่ทำรายได้จากการส่งออกจะเป็นสินค้าเกษตร เช่น ยางพารา ส่วนปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตของสินเชื่อคือ การลงทุนภาครัฐ และภาคเอกชน ที่มองว่าจะยังคงได้ผลกระทบต่อสถานการณ์ทางการเมือง ด้านการบริโภค มองว่าการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตตามร้านค้าลดลงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับปี 55 ขณะที่การจับจ่ายใช้สอยยังคงเป็นสินค้าอุปโภคและบริโภคที่เติบโตต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ธนาคารคาดว่าเงินฝากและกองทุนรวมจะเติบโตประมาณ 9-12% ในปี 57 และหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)ของสินเชื่อรายย่อยปี 56 จะอยู่ที่ 1.5% โดยเติบโตต่ำกว่าตลาดรวมที่อยู่ที่ 2% เนื่องจากทางธนาคารได้มีการคัดเลือกลูกค้าที่มีรายได้ระหว่าง 15,000-20,000 บาท โดยมีการบริหารความเสี่ยงสามารถติดตามลูกค้าได้

ส่วนกลยุทธ์การดำเนินงานในปี 57 จะเน้นไลฟ์สไตล์ แบงค์กิ้ง คาดว่าจะสามารถขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มอีก 3.3 ล้านรายจากสิ้นปี 56 จะมีลูกค้าทั้งสิ้น 12 ล้านราย ซึ่งจะทำให้ฐานลูกค้า ณ สิ้นปี 57 จะอยู่ที่ประมาณ 14 ล้านราย

แนวคิด ไลฟ์สไตล์ แบงกิ้ง จะดำเนินการผ่าน 4 ด้านหลัก คือ ด้านผลิตภัณฑ์ ที่จะออกผลิตภัณฑ์เจาะลึกเจาะความต้องการของลูกค้าในแต่ละ Sub-Segment เช่น นำเสนอเทคโนโลยีในรูปแบบ on-the-go เช่น K-Mobile Banking Plus ที่สามารถจ่ายบิลผ่านการสแกนบาร์โค้ดจากกล้องหลังโทรศัพท์มือถือ ด้านการให้คำปรึกษา มีความพี้อมให้บริการ 2,500 คนใน 975 สาขาทั่วประเทศ และบริการของ K-Expert ผ่าน 4 ช่องทาง เช่น เว็บไซต์ อีเมล คอลเซ็นเตอร์ ทวิตเตอร์ ที่ให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง ด้านบริการ เพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าในการใช้บริการธุรกรรมทางการเงิน เช่น บริการดิจิตอล แบงกิ้ง บริการ Wi-Fi ฟรีในทุกสาขา ส่วนช่องทางสาขา ธนาคารเตรียมเปิดสาขาอีก 170 สาขา ทำให้ธนาคารจะมีสาขารวม ณ สิ้นปี 57 ทั้งสิ้น 1,145 สาขา

"ธนาคารฯยังมุ่งเน้นในการเป็นไลฟ์ สไตล์ แบงกิ้ง ด้วยการขยายตัวในจังหวัดยุทธศาสตร์ เน้นกลุ่มที่เป็น นิว เจน (New Generation) อายุต่ำกว่า 25 ปี ใช้ชีวิตเคลื่อนที่ (Mobile Life) เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ๆที่มีศักยภาพในอนาคตและเพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถทำรายการทางการเงินได้ง่ายและรวดเร็ว"นายปกรณ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ