“นักลงทุนให้การตอบรับหุ้น AIE อย่างน่าประทับใจ จองซื้อกว่า 9,800 ราย แสดงให้เห็นว่านักลงทุนมีความมั่นใจในหุ้น AIE เชื่อมั่นวิสัยทัศน์ ฝีมือทีมผู้บริหาร กอรปกับปัจจัยพื้นฐานสนับสนุนแผนการเติบโตชัดเจน โดยหุ้น AIE จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในวันที่ 6 มกราคม 2557 นี้ มั่นใจจะสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับนักลงทุน" นายสมภพ กล่าว
นายนิมิต วงศ์จริยกุล กรรมการบริหาร บล.โนมูระ พัฒนสิน ในฐานะหนึ่งในผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวเพิ่มเติมว่า นักลงทุนจองซื้อหุ้น AIE หมดเกลี้ยง แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในธุรกิจ รวมถึงความเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในธุรกิจของทีมผู้บริหาร กอปรกับการมีแผนการขยายธุรกิจที่ชัดเจน เพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตให้สามารถรองรับความต้องการสินค้าของตลาดที่มีทิศทางเพิ่มขึ้น รวมถึงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนการผลิตของบริษัทฯ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ AIE เป็นหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตที่มั่นคง ส่งผลให้มีกระแสการตอบรับที่ดีเมื่อเปิดให้จองซื้อหุ้น
นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ในฐานะหนึ่งในผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวเพิ่มเติมว่า AIE ถือเป็นผู้ผลิตพลังงานทดแทนน้ำมันไบโอดีเซลจากน้ำมันปาล์มรายใหญ่ในอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย กอรปกับการที่บล.ฟิลลิป ร่วมกับผู้บริหาร AIE และ APM เดินทางไปนำเสนอข้อมูลของ AIE (Road Show) ให้กับผู้จัดการกองทุนและนักวิเคราะห์ของกองทุนในประเทศสิงคโปร์ 4 แห่ง ซึ่งให้การตอบรับและสนใจเข้าร่วมรับฟังข้อมูลเป็นอย่างมาก แสดงให้เห็นว่านักลงทุนมีความมั่นใจในศักยภาพการเติบโตของบริษัทฯ ที่มีโอกาสขยายตัวได้อีกมากในอนาคต จึงเชื่อมั่นว่าหุ้น AIE จะเป็นหุ้นที่น่าสนใจมากตัวหนึ่ง
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์(APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ธุรกิจของ AIE มีแนวโน้มอยู่ในทิศทางที่ดีและมีความโดดเด่น เห็นได้จากนโยบายที่ชัดเจนของผู้บริหารที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจ ซึ่งราคาเสนอขายที่ 4.75 บาท ถือเป็นราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของกิจการ รวมถึงการมีศักยภาพในการเติบโตสูงจากนโยบายสนับสนุนของภาครัฐเกี่ยวกับพลังงานทดแทน ซึ่งจากการนำเสนอข้อมูล (Road Show) ให้กับนักลงทุน 15 จังหวัดในประเทศ และกองทุนที่ประเทศสิงคโปร์อีก 4 แห่ง กอปรกับจำนวนผู้จองซื้อกว่า 9,800 ราย จึงทำให้มั่นใจว่าเมื่อหุ้น AIE เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ จะได้รับการตอบรับที่ดี และมั่นใจว่าจะสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับนักลงทุนได้
สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกสิ้นสุด ณ 30 ก.ย.56 AIE มีรายได้ 3,101.56 ล้านบาท กำไร 137.27 ล้านบาท สัดส่วนหนี้สินต่อทุน (Debt to Equity Ratio)1.31 เท่า โดยในเดือน ต.ค.-พ.ย.56 บริษัทมียอดรายได้จากการขายและบริการประมาณ 850 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิใน 2 เดือนดังกล่าวจากงบบริหารประมาณ 44.55 ล้านบาท โดยภายหลังการระดมทุนครั้งนี้ จะทำให้ AIE มีส่วนหนี้สินต่อทุน (Debt to Equity Ratio) ต่ำกว่า 1 เท่า ซึ่งถือว่ามีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง จึงมั่นใจว่าหุ้นสามัญของ AIE จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน
นายณรงค์ ธารีรัตนาวิบูลย์ ประธานกรรมการ AIE ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลจากน้ำมันปาล์ม และน้ำมันปาล์มโอเลอีนผ่านกรรมวิธี ตรา“พาโมลา"กล่าวว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ จะช่วยผลักดันให้ AIE มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งมากขึ้น จากการขยายธุรกิจและปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องจักร อาทิ สร้างถังเก็บวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์เพิ่ม ลงทุนซื้อเครื่องจักรเพื่อลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพของการผลิตไบโอดีเซล เป็นต้น รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ เพื่อรองรับการขยายงานของบริษัทในอนาคต ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับกิจการและสร้างศักยภาพในการแข่งขันให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น
นายอนุรักษ์ ธารีรัตนาวิบูลย์ กรรมการผู้จัดการ AI กล่าวว่า การได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยมในครั้งนี้ คาดว่าเป็นผลจากการที่นักลงทุนมองเห็นถึงโอกาสและแนวโน้มการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคตจากความต้องการใช้น้ำมันไบโอดีเซลที่จะเพิ่มสูงขึ้นจากนโยบายภาครัฐที่จะเพิ่มสัดส่วนไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลจาก 5% (บี5) เป็น 7% (บี7) ในขณะที่ธุรกิจน้ำมันปาล์มโอเลอีนตรา "พาโมลา" ก็มีทิศทางการเติบโตที่ดี และบริษัทฯ มีแผนที่จะผลักดันให้เข้าไปจำหน่ายในโมเดิร์นเทรดมากขึ้นเพื่อสร้างการรับรู้ในแบรนด์
“การเปิดจองซื้อหุ้นในครั้งนี้ได้ผลการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี ด้วยความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง และแนวโน้มการเติบโตที่ชัดเจน จึงเชื่อมั่นว่าเมื่อ AIE เข้าเทรดจะไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง" นายอนุรักษ์ กล่าว