สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB176A, LB145B และ LB155A (รุ่นอายุ 3.5 ปี, 0.4 ปี และ 1.4 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 3,389 ล้านบาท หรือคิดเป็น 59% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ของบริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) (SGP162A) มูลค่า 4.2 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ของบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (NOBLE158A) มูลค่า 2.0 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 6.2 ล้านบาท หรือคิดเป็น 100.0% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 14,950 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 1,041 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 31 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.31% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.01% และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.41% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.05%
Yield Curve ปรับลดลงในทุกช่วงอายุตราสาร ประมาณ 1-5 bps. จากการเข้าซื้อของนักลงทุนประเภทสถาบันโดยเฉพาะกองทุนรวม ล่าสุดตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมามีแนวโน้มเชิงบวก โดยเฉพาะจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (Jobless Claims) ที่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ตลาดคาดว่า Fed อาจลดขนาดมาตรการ QE ลงอีกในการประชุมครั้งหน้า สำหรับนักลงทุนต่างชาติ วันนี้มียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 31 ล้านบาท