สำหรับสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศ มองว่าเป็นปัจจัยระยะสั้นที่ส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุนซึ่งหากจะมีการเลือกตั้งตามกำหนดในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 เชื่อว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง แต่อย่างไรก็ตาม ประเด็นทางการเมืองยังเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ณ วันต่อวัน ซึ่งหากยืดเยื้อมากกว่าครึ่งปี ภาพรวมของบรรยากาศการลงทุนจะเปลี่ยนไป
พร้อมกันนี้แนะนำ 3 กลยุทธ์การลงทุนหลัก ได้แก่ 1.เลือกหุ้นที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่นและเติบโตแบบยั่งยืน เช่น EA,AI,SIM,BEAUTY,TTCL,PS และ NOK โดยมีผลตอบแทนคาดหวังเฉลี่ยของกลุ่มที่ 36%
2.หุ้น Turnaround ซึ่งต้องมีคุณสมบัติที่ดี 3 ประการ คือปี 2557 ผลการดำเนินงานฟื้นตัว, Valuation อยู่ในระดับที่น่าสนใจ และมี High beta เพื่อเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน เช่น ANAN,SPALI,CPALL,TUF,IVL และ BANPU โดยมีผลตอบแทนคาดหวังเฉลี่ยของกลุ่มที่ 40%
และ 3.หุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)ซึ่งบริษัทจดทะเบียนที่มีแนวโน้มเป็น AEC Winner ต้องมี 3คุณสมบัติ ได้แก่ ความสามารถในการแข่งขัน,ความสามารถสร้างกระแสเงินสดสูง และมีความแข็งแกร่งของฐานะการเงิน โดย 3 อุตสาหกรรมหลักที่ได้ประโยชน์โดยตรงจากการเปิดเสรี คือ กลุ่มสินค้าเพื่อการบริโภค กลุ่มรับเหมาก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง กลุ่มบริการการแพทย์และท่องเที่ยว
ขณะที่กลุ่มสื่อสารและกลุ่มบันเทิงได้รับประโยชน์ทางอ้อม โดยหุ้นที่แนะนำ คือ M,SIM,SCCC,CHG,JAS,NOK,TTCL โดยมีผลตอบแทนคาดหวังเฉลี่ยของกลุ่มที่ 33%
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มที่ บล.เออีซี ให้น้ำหนักมากกว่าตลาด (Overweight) 4 กลุ่ม คือ กลุ่มขนส่ง กลุ่มอาหาร กลุ่มธนาคารพาณิชย์และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนกลุ่มที่ให้น้ำหนักน้อยกว่าตลาด (Underweight) มี 3 กลุ่ม คือ กลุ่มค้าปลีก กลุ่มโรงแรมและกลุ่มโรงพยาบาล แต่อย่างไรก็ตาม พบว่า มีหุ้นรายตัวที่น่าสนใจอย่าง CHG,BH,CPALL,ERW ที่คาดว่าจะโดดเด่นกว่าอุตสาหกรรม