(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งจำกัด-มีสิทธิ์ผันผวน เหตุการเมืองกดดัน-บาทอ่อน

นอกจากนี้ เงินดอลลาร์สหรัฐฯก็แข็งค่าขึ้นและเงินบาทอ่อนค่าลงมาจนทะลุระดับ 33 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ ไปแล้ว จึงมีแนวโน้มที่เงินจะไหลออกได้ อีกทั้งขณะนี้ตลาดฯยังไม่มีปัจจัยอะไรเข้ามาหนุนด้วย

พร้อมให้แนวรับ 1,200-1,210 จุด แนวต้าน 1,260-1,265 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(3 ม.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,469.99 จุด เพิ่มขึ้น 28.64 จุด(+0.17%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,831.37 จุด ลดลง 0.61 จุด(-0.03%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,131.91 จุด ลดลง 11.16 จุด (-0.27%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 143.77 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 4.46 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 84.45 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 6.46 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.48 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 11.14 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.11 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(3 ม.ค.)ที่ 1,224.62 จุด ลดลง 6.15 จุด (-0.50%)
• นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 468.95 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 ม.ค.57
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(3 ม.ค.)ที่ 93.96 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.48 ดอลลาร์ฯหรือ 1.55%
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(3 ม.ค.)ที่ 7.98 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 33.01/02 แนวโน้มยังอ่อนค่าต่อตามภูมิภาค หลังดอลล์แข็ง
• บอร์ดกนง.ถกนัดแรกปีนี้ 22 ม.ค. เล็งทบทวนตัวเลขเศรษฐกิจใหม่, นักเศรษฐศาสตร์-นักธุรกิจ มองเศรษฐกิจไทย ปี 2557 ยังฟื้นไม่เต็มที่ ลุ้น "ส่งออก-ลงทุนรัฐ" ดันจีดีพีขยายตัว "ประสาร"ชี้การเมืองโจทย์ใหญ่ ปี 2557 ด้าน "โฆษิต-บัณฑิต" ฟันธงเศรษฐกิจโตต่ำ 4% เหตุการเมืองฉุด ส่งผลแรงขับเคลื่อนหลักไม่ฟื้น ขณะที่ "ศุภวุฒิ" ห่วงเงินทุนเคลื่อนย้ายผันผวน เฟดลดคิวอีดันดอกเบี้ยระยะยาวเพิ่ม
• พาณิชย์ตั้งเป้าหมายส่งออกปี 57 ขยายตัว 5% เอกชนชี้หลายปัจจัยเสี่ยงรุมส่อพลาดเป้า ระบุ ชุมนุมการเมืองส่งผลกระทบความมั่นใจลูกค้า ขณะที่เศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ หวังตลาดอาเซียนช่วยกระตุ้น กลุ่มอิเล็กฯเตรียมยกระดับผลิตรับเทคโนโลยีสมัยใหม่ หลังการผลิตลดลงต่อเนื่อง เหตุเทคโนโลยีเปลี่ยน ฉุดอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ร่วง
• นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่าคณะกรรมการร่วม ภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) จะหารือกันวันที่ 6 ม.ค.ถึงการชุมนุมปิดถนนกรุงเทพฯ วันที่ 13 ม.ค.นี้ เพื่อประเมินผลกระทบและทิศทางเศรษฐกิจแต่ละไตรมาสของปีนี้ เพื่อเป็นข้อมูลให้แต่ละองค์กรใช้ประกอบการจัดทำแผนภายในองค์กรเพื่อปรับตัวรับมือรวมทั้งมาตรการช่วยแต่ละองค์กร
• "อนุสรณ์ ธรรมใจ"กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกำกับนโยบายและบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยว่า ได้เสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริหารหนี้สาธารณะให้มีการทบทวนตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(จีดีพี) ของประเทศไทยเสียใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับความเป็นจริง เพราะตามสมมติฐานของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) คาดการณ์จีดีพีที่ใช้ในการคำนวณตัวเลขหนี้สาธารณะในปีนี้ว่าจะขยายตัวได้ที่ระดับ 3.6 และเพิ่มเป็น 4% ในปี 2558 และเพิ่มเป็น 4-5% ในปี 2559 ขณะที่ในความเป็นจริงเศรษฐกิจอาจไม่เป็นไปตามที่ประเมินไว้
• นายศักรินทร์ ร่วมรังษี ผู้ช่วยผู้จัดการหัวหน้าสายงานกฎหมาย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เผยปีนี้แผนงานด้านการกำกับของ ตลท.จะเน้นการทำงานเพื่อสนับสนุนการเพิ่มผลิตภัณฑ์ตราสารการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะกิจการจากประเทศเพื่อนบ้านให้เข้ามาจดทะเบียนซื้อขายในตลท. โดยในปีนี้คาดว่าจะสามารถออกเกณฑ์ใหม่และปรับปรุงเกณฑ์เดิมในหลายเรื่องได้แก่ ออกเกณฑ์รับหลักทรัพย์บริษัทต่างประเทศที่ไม่เคยจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งใดมาก่อน สามารถออกและเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชนและจดทะเบียนใน ตลท.เป็นแห่งแรก

*หุ้นเด่นวันนี้

• AIE (บมจ.เอไอ เอนเนอร์จี)เข้าเทรดวันนี้วันแรก ด้านบล.เคเคเทรด ประเมินมูลค่าเหมาะสมอยู่ที่ 5 บาท/หุ้น โดยราคาขาย IPO ที่ 4.75 บาท/หุ้น

บริษัทฯประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันไปโอดีเซล (B100) ด้วยกำลังการผลิต 1.15 ล้านตันน้ำมันปาล์มดิบต่อวัน มีธุรกิจท่าเทียบเรือและคลังน้ำมันเชื้อเพลิงและทำธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเล สัดส่วนรายได้ของ AIE ใน 9M56 กว่า 96% มาจากการขาย B100 การเสนอขาย IPO ในครั้งนี้ AIE จะนำเงินที่ได้ไปชำระคืนเจ้าหนี้สถาบันการเงิน 450 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะนำไปลงทุนในเครื่องจักรเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตและปรับปรุงกระบวนการผลิต B100 รวมทั้งใช้เป็นเป็นเงินทุนหมุนเวียนประมาณ 326 ล้านบาท โดย AI ในฐานผู้ถือหุ้นใหญ่ลดสัดส่วนลงเหลือ 60%

• SVI(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 4.50 บาท ผลการดำเนินงานใน 4Q56 ที่จะเป็นช่วงที่ดีที่สุดของปี โดยที่ในเบื้องต้นคาดบริษัทจะมีกำไรปกติราว 171 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% QoQ และ 75% YoY ขณะที่ราคาหุ้นมีปัจจัยหนุนในระยะสั้นจากความคืบหน้าเงินประกันความเสียหายน้ำท่วมราว 1,058 ล้านบาท ที่คาดว่าจะรับรู้เป็นรายรับใน 4Q56 ประมาณ 635 ล้านบาท และส่วนที่เหลืออีก 40% จะรับรู้ใน 1Q57 ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทกลับมามีสถานะ Net Cash และคาดว่ามีโอกาสจะจ่ายเงินปันผลพิเศษในปีนี้
• INTUCH(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 90 บาท ประเมินผลประกอบการใน 4Q56 จะฟื้นตัวขึ้นตามบริษัทลูกอย่าง ADVANC ที่จะได้รับปัจจัยหนุนจากค่าใช้จ่ายส่วนแบ่งรายได้ 2G ที่ลดลงต่อเนื่อง และ THCOM ที่คาดว่าผลการดำเนินงานใน 4Q56 จะเป็นไตรมาสที่มีกำไรดีสุดของปี ประกอบกับการจ่ายเงินปันผลที่คาดว่าจะจ่าย 1.90 บาท/หุ้นสำหรับงวด 2H56 และ 4.99 บาท/หุ้นสำหรับงวดปี 57 ซึ่งคิดเป็นระดับ Dividend Yield ที่สูงถึง 2.9% และ 7.6% ตามลำดับ ทำให้ยังเลือก INTUCH เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มสื่อสาร
• KTB(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 25 บาท ยืนยันมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการในปี 2557 และเชื่อว่ากำไรจะเติบโตสูงที่สุดเมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 4 ธนาคาร ได้แก่ BBL, KBANK, SCB และ KTB ขณะที่กำไรสุทธิ 4Q56 คาดว่าจะเติบโตสูงถึง +651% yoy เป็น 6,501 ล้านบาท เนื่องจากจะมีการรับรู้กำไรพิเศษจากการปิดกองทุนวายุภักษ์ราว 3 พันล้านบาท ดังนั้น แม้ว่าผลประกอบการ 4Q56 จะมีการตั้งสำรองพิเศษเพื่อเพิ่มระดับ Coverage Ratio แต่จะไม่ส่งผลให้กำไร 4Q56 ลดลงมาก qoq เหมือนทุกปีที่ผ่านมา และคาดการณ์เงินปันผลปี 2556 (จ่ายปีละ 1 ครั้ง) หุ้นละ 1 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 6.4%