(เพิ่มเติม) THAI เชื่อปี 57 พลิกเป็นกำไร รายได้โต 5% cabin factor ที่ระดับ 76%

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 7, 2014 17:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.การบินไทย(THAI)คาดว่าในปี 57 ผลประกอบการจะพลิกกลับเป็นกำไร ภายใต้คาดการณ์รายได้ของบริษัทจะเติบโตประมาณ 5% และอัตรากำไรสุทธิจะสูงกว่าภาพรวมอุตสาหกรรมการบิน ขณะที่อัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร(cabin factor)เฉลี่ยของปีนี้น่าจะอยู่ที่ระดับ 76%

ส่วนสถานการณ์การเมืองในช่วงนี้มีผลกระทบต่อ cabin factor ในเดือน ม.ค.57 ที่ลดลงมาอยู่ที่ 70% เนื่องจากปริมาณผู้โดยสารลดลง ขณะที่บริษัทได้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ปิดกทม.ในวันที่ 13 ม.ค.ด้วยการปิดทำการอาคารสำนักงานใหญ่ในวันดังกล่าว และจะมีการพิจารณาสถานการณ์เป็นรายวัน

นายโชคชัย ปัญญายงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสสายการพาณิชย์ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ THAI คาดว่า รายได้ในปี 57 จะเติบโต 5% จากปี 56 และมีอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 76% ขณะที่ปีนี้บริษัทคาดจะพลิกมีกำไร โดยคาดว่าอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) จะได้มากกว่าระดับอุตสาหกรรมการบินที่ 2.2% ที่สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA )ประมาณการไว้สูงกว่า ปีก่อนที่มี 1.6% เนื่องจากในปีนี้ได้รับมอบเครื่องบินใหม่จำนวน 14 ลำซึ่งสามารถช่วยประหยัดต้นทุนน้ำมัน รวมทั้งการบริหารจัดการ ที่จะจัดการลดเที่ยวบินตามจำนวนผู้โดยสารซึ่งจะลดต้นทุนด้วย

สำหรับผลประกอบการในปี 56 ในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมาไม่ค่อยดีนัก เพราะมีปัจจัยลบหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจโลก อัตราแลกเปลี่ยน ได้แก่ ค่าเงินเยนและค่าเงินออสเตรเลียอ่อนตัวลง 15-17% เงินรูปีของอินเดียอ่อนตัว 8-9% ซึ่งกระทบต่อรายได้ รวมทั้งนโยบายของจีนที่ไม่มีทัวร์ศูนย์เหรียญ อีกทั้งรับผลกระทบการเมืองตั้งแต่พ.ย.56

นายโชคชัย กล่าวว่า ผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองส่งผลกระทบต่อเนื่องในเดือนม.ค.57 ทำให้นักท่องเที่ยวลดลงโดยเฉพาะจากจีน และออสเตรเลียที่อ่อนไหวเรื่องการเมือง ซึ่งทำให้ต้องควบรวมเที่ยวบินมา 2-3% คาดว่า Cabin Factor ในเดือน ม.ค.ที่ 70% และจากยอดจองในเดือน ก.พ. ลดลงมาที่ 60%

"ปี 56 เราเพิ่ม production 9% ปี 57 เราคงกำลังการผลิตเท่าเดิม แต่เพิ่มประสิทธิภาพ"นายโชคชัย กล่าว

สำหรับ การเปิดเส้นทางบินใหม่ยังอยู่ในขั้นศึกษา ส่วนใหญ่เป็นเมืองในญี่ปุ่น และจีน เช่น เมืองฮิโรชิมา ทั้งนี้ การบินไทยมีส่วนแบ่งตลาดญี่ปุ่นสูงสุด จึงถือว่าเป็นตลาดที่แข็งแกร่งของการบินไทย รองลงมาเป็นตลาดจีนที่ผ่านมารับผลกระทบจากเศรษฐกิจจีนที่อ่อนตัวลง แต่เชื่อว่าเศรษฐกิจจีนจะกลับมามีเสถียรภาพ และมีแนวโน้มพัฒนาการเดินทาง ขณะที่กลุ่มลูกค้าทางใต้ ได้แก่ สิงคโปร์ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ยังถือว่าเป็นลูกค้าที่มีคุณภาพ

ร.อ.มนตรี จำเรียง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายช่าง THAI กล่าวว่า ในปี 57 จะรับมอบเครื่องบินใหม่ จำนวน 14 ลำ คือ โบอิ้ง 787-8 (ดรีมไลเนอร์) ซึ่งเป็นเครื่องบินเจนเนอเรชั่นใหม่ จำนวน 4 ลำ ซึ่งสามารถช่วยลดการใช้น้ำมัน 25% เพราะโครงสร้างเบาขึ้น A320 จำนวน 7 ลำ และ B777-300ER จำนวน 3 ลำ ขณะที่ปีนี้จะปลดระวาง 13 ลำ ช่วง ก.พ.-ธ.ค.57 ได้แก่ B737-400 จำนวน 2 ลำ A330-300 จำนวน 6 ลำ และ A330-600 จำนวน 5 ลำ

ส่วนเครื่องบินที่ปลดระวางไปเมื่อปี 56 มีจำนวน 12 ลำ ปัจจุบันยังไม่สามารถขายได้ ได้แก่ B747-400 จำนวน 4 ลำ B737-400 จำนวน 4 ลำ และ แอร์บัส A340-500 จำนวน 4 ลำ

ทั้งนี้จะนำเสนอคณะกรรมการบริษัทในเดือนนี้ให้นำเครื่องบินเหล่านี้กลับมาบินใหม่ แต่หากไม่ได้รับอนุมัติก็ต้องรอขาย โดยเครื่องบินโบอิ้งยังสามารถขายได้เพราะยังเป็นที่ต้องการของตลาด ส่วนเครื่องบินแอร์บัส อาจจะเจรจากับผู้ผลิตแอร์บัสขายคืนเพื่อแลกซื้อรุ่นอื่น อย่างไรก็ดี หากยิ่งขายล่าช้าออกไปจะทำให้ราคาเครื่องบินลดลง ประมาณ 20%ต่อปี

สำหรับมาตรการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์การเมืองในวันที่ 13 ม.ค.57 นายโชคชัย กล่าวว่า การบินไทยจะปิดสำนักงานใหญ่ ส่วนจะหยุดต่อเนื่องหรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่สำนักงานที่หลานหลวง และสีลม ยังเปิดจำหน่ายตั๋วโดยสารอยู่ รวมทั้งสนามบินสุวรรณภูมิ มีพนักงานการบินไทยพร้อมให้บริการ รวมทั้งให้ผู้โดยสารสามารถเลื่อนเที่ยวบินหรือเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินสำหรับตั๋วทุกประเภท โดยบริษัทไม่เก็บค่าธรรมเนียมใดๆ

ร.อ.มนตรี กล่าวถึงสาเหตุที่สายการบินไทยเกิดการดีเลย์ในช่วงวันที่ 2-5 ม.ค. ว่า เนื่องจากรถบรรทุกนำส่งขึ้นเครื่องล่าช้า จากที่กรณีบริษัท Outsource เกิดปัญหาแรงงานขาดจากการหยุดต่อเนื่องเทศกาลปีใหม่ แต่ไม่ได้ดีเลย์จากพนักงานของการบินไทย

สำหรับข่าวลือที่จะล้มละลายการบินไทยนั้น นายโชคชัย กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ที่ใครหรือกลุ่มบุคคลใดจะเข้าเทคโอเวอร์ เพราะปัจจุบัน กระทรวงการคลังถือหุ้นอยู่ 51% และในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาธุรกิจก็ยังถือว่าแข็งแกร่ง แม้ว่าในปี 51 และ ปี 54 ประสบผลขาดทุน อย่าไรก้ตาม ณ สิ้นเดือนก.ย.56 การบินไทย มีสินทรัพย์ 3.15 แสนล้านบาท ขณะที่หนี้สิน มี 1.83 แสนล้านบาท จากปี 51 ที่มีสินทรัพย์ 2.53 แสนล้านบาท หนี้สิน 1.29 แสนล้านบาท จากการเพิ่มจำนวนเครื่งบินใหม่ รวมทั้งบริษัทมีสถานะมั่นคง มีเงินสด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ