(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้ายังลุ้นขึ้น-แต่อาจเจอแรงขายบ้าง เหตุการเมืองยังไม่ชัด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 8, 2014 09:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้อยู่ แต่น่าจะมี Profit taking ในระหว่างทางด้วย เนื่องจากการเมืองยังไม่ได้มีอะไรที่ชัดเจนออกมา ขณะเดียวกันต่างก็ยังรอดูเหตุการณ์การชุมนุมใหญ่ในวันจันทร์หน้า(13 ม.ค.)ซึ่งดูว่าจะมีการปะทะกันหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้มีการพูดกันหนักขึ้น แม้แต่นักลงทุนต่างชาติเองเวลานี้ก็ยังไม่ได้ทำอะไร ยังเฝ้ามองว่าการเมืองจะจบอย่างไร

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะไปในทางลบ ยกเว้นตลาดฮ่องกง และญี่ปุ่น โดยปัจจัยนอกประเทศตอนนี้ต่างรอดูรายละเอียดการประชุมเฟดที่จะออกมาคืนนี้ ซึ่งดูผลโหวตว่าจะมีกี่คนที่จะลดขนาด QE หากมีจำนวนมากก็อาจจะทำให้ลดขนาด QE อีกรอบในสิ้นเดือนนี้ได้

ดังนั้นขณะนี้จึงแนะนำ Wait & See ไปก่อน และเมื่อราคาหุ้นปรับตัวขึ้นก็ทยอยขายทำกำไรก่อน พร้อมให้แนวต้าน 1,280 จุด ซึ่งเป็นจุดที่เริ่มทยอยขายทำกำไรได้ ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,250 จุด หากต่ำกว่านี้ให้ stop loss

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(7 ม.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,530.94 จุด เพิ่มขึ้น 105.84 จุด(+0.64%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,837.88 จุด เพิ่มขึ้น 11.11 จุด(+0.61%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,153.18 จุด เพิ่มขึ้น 39.50 จุด (+0.96%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 129.31 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 122.03 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 36.31 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 6.06 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 9.05 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.84 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 0.06 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.86 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(7 ม.ค.)ที่ 1,262.36 จุด เพิ่มขึ้น 31.52 จุด (+2.56%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,092.06 ล้านบาท เมื่อวันที่ 7 ม.ค.57
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(7 ม.ค.)ที่ 93.67 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.24 ดอลลาร์ฯหรือ 0.3%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(7 ม.ค.)ที่ 6.58 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.07/09 รอตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ-รายงาน FOMC
  • มติป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหา 308 ส.ส.-ส.ว.แก้รัฐธรรมนูญปมที่มา ส.ว. แยกความผิดกลุ่มเห็นชอบให้ผ่านทั้งสามวาระ 293 คน กลุ่มเสนอร่าง 15 คน และโหวตผ่านแค่วาระสาม 73 คน "ยิ่งลักษณ์"รอด เหตุลงมติเฉพาะวาระสาม นัดชี้แจงด้วยตัวเอง 15-17 ม.ค.นี้
  • หอการค้าไทย ประเมินส่งออกปีนี้ มีโอกาสโตแค่ 3.88% ยกปัจจัยเศรษฐกิจโลกฟื้นยังไม่เต็มที่และการเมืองป่วน ขณะที่ไตรมาสแรกยังติดลบต่อเนื่อง ด้าน สรท. เชื่อส่งออกโตได้ 5% ค่าเงินเฉลี่ยทั้งปี 34 บาทต่อดอลลาร์ เผยชุมนุมปิดกรุงเทพส่งผลต่อเศรษฐกิจ 4 ระดับ ห่วงแรงสุด ความขัดแย้งไม่จบรัฐบาลทำงานไม่ได้ ทำต่างชาติหนีจากไทย สอดคล้องเครดิสสวิส ยกการเมืองปัจจัยเสี่ยงหั่นจีดีพีปีนี้เหลือ 3% จากเดิม4.5% กดดันแบงก์ชาติลดดอกเบี้ย
  • นักท่องเที่ยวพากันยกเลิกการจองที่พักในโรงแรมในกรุงเทพฯหลังจาก กปปส.ประกาศปิดกรุงเทพฯ หรือชัตดาวน์ วันที่ 13 ม.ค. จนเหลืออัตราเข้าพัก 30-40% จากปกติ 95-100% เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่น โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาประชุมวางแผนรับมือการดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังยืนยันเข้าพักกลุ่มนี้ ประกอบด้วย 1.ตั้งศูนย์ดูแลนักท่องเที่ยวกระจายไป 7 จุดที่จะมีการชุมนุมปิดถนน มีศูนย์ใหญ่อยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ 2.ตั้งจุดบริการนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปสถานที่ต่างๆ ที่อาจเกิดปัญหาด้านการคมนาคม 3.บริการติดตามสถานการณ์ผ่านกล้องวงจรปิด ผ่านระบบไอพี อินเทอร์เน็ต
  • สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ รายงานให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 7 ม.ค.ว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และการเปลี่ยนแปลงนโยบายอัดฉีดเงินเชิงปริมาณของสหรัฐที่มีผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนของไทย จะเป็นปัจจัยหลักที่สนับสนุนภาคการส่งออกของไทยในปี 2557 ขยายตัวได้ดีขึ้น
  • แบงก์ชาติเตรียมเสนอบอร์ด กนส. วันนี้ รับทราบรายชื่อธนาคารพาณิชย์ต่างชาติที่ขอไลเซนต์ทำธุรกิจในไทย หลังจากนั้นให้เวลา "ธปท.-คลัง" ไม่เกิน 6 เดือนพิจารณาคุณสมบัติ มั่นใจสิ้น มิ.ย.นี้ประกาศรายชื่อผู้ได้ใบอนุญาตรายใหม่ได้ทั้งหมด หวัง ผู้เล่นใหม่ช่วยเพิ่มการแข่งขัน รวมทั้ง เติมเต็มบริการบางส่วนที่ยังขาด
  • ธปท.เผยเงินบาทยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามากระทบและขณะนี้ธุรกรรมต่างๆ เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ธุรกรรมในตลาดเบาบาง เพราะเป็นช่วงวันหยุดยาว ส่วนกรณีบางฝ่ายมองเงินบาทอ่อนหนักทะลุ 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐภายในไตรมาสแรกเป็นเรื่องที่ตอบยาก ขึ้นกับปัจจัยที่เข้ามากระทบเงินบาทในช่วงนั้น ๆ

*หุ้นเด่นวันนี้

  • BBL(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 240 บาท ยังให้เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มธนาคาร เนื่องจากจะมีความเสี่ยงจากสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในระยะสั้นจำกัด จากการที่ธนาคารมีเงินทุนสำรวจส่วนเกินค่อนข้างมาก และมีสัดส่วนสินเชื่อ SME รวมทั้งรายได้จากกลุ่มรายย่อย ที่เริ่มมีสัญญาณการชะลอตัวชัดเจนต่ำ ขณะที่ระดับราคาหุ้นของ BBL ลดลงมาอยู่ในระดับที่น่าสนใจมาก จากที่ปัจจุบันซื้อขายที่ระดับ PBV ราว 1.1 เท่า และ PER ราว 8.8 เท่าเท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าระดับค่าเฉลี่ย 10 ปี -1SD แล้ว รวมทั้งจากการคาดการณ์เงินปันผลในปี 2557 ที่ 9.5 บาท เทียบกับระดับราคาหุ้นปัจจุบันคิดเป็น Dividend Yield สูงถึง 5.3%
  • PTTEP(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 194 บาท การปรับแผนการลงทุนเพิ่มทำให้เชื่อมั่นต่อการเติบโตในระยะยาวของบริษัท ส่วนในระยะสั้นผลจากยอดขายปิโตรเลียมที่มีแนวโน้มเติบโตและการรับรู้รายได้จากการลงทุนใหม่ทำให้กำไรจากการดำเนินของ PTTEP ยังเติบโตสูงต่อเนื่อง นอกจากนี้หุ้นยังมี Upside จากโครงการของ Hess ที่อยู่ระหว่างเจรจา เราเลือกให้เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มพลังงาน ราคาหุ้นที่ปรับลดกว่า 11% ในปี 2557 ทำให้ราคาหุ้นถูกมากเนื่องจากมี PER ปี 2557 ที่ 9.4 เท่า เทียบกับธุรกิจ E&P ในภูมิภาคมี PER ที่ 12.9 เท่า
  • CPALL(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 53 บาท วางแผน 3-5 ปีข้างหน้า โดยจะส่งบริษัทลูกแห่งใหม่ ทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง จำกัด เข้าตลาดหุ้น จับตลาดอีคอมเมิร์ซ โดยบริษัทแห่งนี้จะให้บริการสั่งจองและจัดจำหน่ายสินค้าที่มีมากกว่า 5,000 รายการ ผ่านทางนิตยสารเซเว่น แคตตาล็อก และการสั่งสินค้าผ่านศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์และเว็บไซต์ประมาณ วางเป้ารายได้ปี 57 ที่ 4,300 ล้านบาท เติบโตจากปี 56 ราว 30% ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท มี CPALL ถือหุ้น 99.99% ทั้งนี้มองว่าเป็นการขยายช่องทางการขายที่ดี สอดคล้องกับชีวิตที่ต้องการความสะดวกสบายและความนิยมในการซื้อของผ่านอินเตอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้น
  • THCOM(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 4250 บาท ส่งดาวเทียมไทยคม 6 สำเร็จแล้วเมื่อ 6 ม.ค.57 นอกจากนี้ ชอบ THCOM เนื่องจากคาดผลการดำเนินงานปกติจะเติบโตแข็งแกร่งในปี 2013-2014 โดยประมาณการว่ากำไรสุทธิ 4Q13 จะสูงสุดในรอบปี เพราะมีรายได้จาก iPSTAR ที่จีน และผลักดันให้กำไรหลักปี 2013 โตถึง 53% ส่วนกำไรหลักปี 2014 เติบโตต่อเนื่องอีก 49% แรงผลักดันมาจากการรับรู้รายได้เต็มปีของ iPSTAR ที่จีนและไทยคม 6 ความต้องการใช้ดาวเทียมสดใส ตามการเปลี่ยนผ่านไปสู่ TV Digital บริษัทต่อยอดยิงดาวเทียมไทยคม 7 ปี 2014 และศึกษาไทยคม 8-9 ต่อไปอีก

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ