สำหรับหุ้นกู้ทั้ง 2 ชุด เป็นหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ชนิดระบุผู้ถือ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนถือหุ้นกู้ โดยบริษัทจะชำระดอกเบี้ยให้ผู้ถือหุ้นกู้ทุกๆ 3 เดือน และจะชำระคืนเงินต้นทั้งจำนวนในวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ ซึ่งหุ้นกู้ของบริษัทได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ BBB+ และมีแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือ Stable จากบริษัท ทริสเรทติ้ง
ทั้งนี้ หุ้นกู้ชุดที่ 1 มีมูลค่าหุ้นกู้ที่เสนอขายไม่เกิน 2,000 ล้านบาท และมีหุ้นกู้สำรองเพื่อเสนอขายเพิ่มเติมมูลค่าไม่เกิน 1,000 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่ารวมที่เสนอขายไม่เกิน 3,000 ล้านบาท ขณะที่หุ้นกู้ชุดที่ 2 มีมูลค่าหุ้นกู้ที่เสนอขายไม่เกิน 1,000 ล้านบาท และมีหุ้นกู้สำรองเพื่อเสนอขายเพิ่มเติมมูลค่าไม่เกิน 1,000 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่ารวมที่เสนอขายไม่เกิน 2,000 ล้านบาท รวมวงเงินเสนอขายหุ้นกู้ทั้ง 2 ชุดไม่เกิน 5,000 ล้านบาท
นายประชัย กล่าวว่า วัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ และรองรับการลงทุนของบริษัททั้งในปัจจุบัน และการลงทุนที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยบริษัทเป็นผู้ผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่อันดับ 3 ของประเทศ มีกำลังผลิต 9 ล้านตันต่อปี มีส่วนแบ่งตลาด 18% ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ปัจจุบัน บริษัทมีสายการผลิตปูนซีเมนต์ครบวงจรตั้งแต่การผลิตปูนเม็ด ปูนซีเมนต์ ปูนสำเร็จรูป คอนกรีต และไฟเบอร์ซีเมนต์ ซึ่งความต่อเนื่องของสายการผลิตปูนซีเมนต์ ทำให้บริษัทได้รับประโยชน์จากการประหยัดจากขนาดและมีโครงสร้างต้นทุนที่แข่งขันในตลาดได้