สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวม 95,365 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 53,566 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 56.2% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 37,503 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 39.3% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 868 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.9% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB176A, LB296A และ LB155A (รุ่นอายุ 3.4 ปี, 15.4 ปี และ 1.3 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 23,317 ล้านบาท หรือคิดเป็น 62% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT149A) มูลค่า 264.8 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ของบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) (PS179B) มูลค่า 152.7 ล้านบาท
3. หุ้นกู้บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) (CPALL23OB) มูลค่า 102.7 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 520.2 ล้านบาท หรือคิดเป็น 60.0% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 12,833 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตเพื่อค้าตราสารหนี้ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 6,178 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -4,147 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.24% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.38% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.05%
>>ภาพรวมของตลาดในวันนี้
Yield Curve ปรับเพิ่มขึ้นในตราสารอายุ 3 ปีขึ้นไป ประมาณ 2-6 bps. จากแรงขายส่วนใหญ่ของนักลงทุนต่างชาติ โดยตลาดรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะ Non-farm Payroll และรายงานผลการประชุมนโยบายประจำเดือน ธ.ค.13 ของ Fed คืนนี้ ว่าจะมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับ การชะลอมาตรการ QE อีกหรือไม่ สำหรับนักลงทุนต่างชาติมีการขายในพันธบัตรระยะกลางถึงยาว ยอดขายสุทธิ (NET SELL) เท่ากับ 4,147 ล้านบาท