(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นขึ้นได้แต่ไม่มาก หวั่น Sentiment การเมืองเพิ่มขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 9, 2014 09:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชียพลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มองว่ามีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้ไม่มาก ซึ่งยิ่งใกล้การชุมนุมในวันที่ 13 ม.ค.นี้ และใกล้วันเลือกตั้ง ก็ยิ่งทำให้ Sentiment การเมืองเพิ่มมากขึ้น

อีกทั้งตลาดฯรีบาวด์ขึ้นมาแล้ว ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่นักลงทุนน่าจะชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานกรณ์การเมืองมากกว่า ดังนั้นโอกาสที่ตลาดฯจะปรับขึ้นจึงมีไม่มาก ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนลบ คาดว่าคงจะกังวลเรื่องการลดขนาด QE

พร้อมให้แนวรับ 1,230 จุด แนวต้าน 1,280 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(8 ม.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,462.74 จุด ลดลง 68.20 จุด(-0.41%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,837.49 จุด ลดลง 0.39 จุด(-0.02%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,165.61 จุด เพิ่มขึ้น 12.43 จุด (+0.30%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 118.57 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 0.21 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 3.34 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 7.53 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.50 จุด,ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 2.57 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 71.36 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ลดลง 0.62 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(8 ม.ค.)ที่ 1,257.73 จุด ลดลง 4.63 จุด (-0.37%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,876.61 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 ม.ค.57
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(8 ม.ค.)ที่ 92.33 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.34 ดอลลาร์ฯหรือ 1.4%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(8 ม.ค.)ที่ 6.37 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.06/08 ทิศทาง sideway จับตาการเมือง-ความชัดเจน QE
  • แบงก์ชาติ เผยเงินทุนไหลออกเริ่มชะลอ พร้อมยืนยันเงินบาทไม่ได้อ่อนค่าเร็วเกินแม้หลุดระดับ 33 บาทต่อดอลลาร์ แนะจับตา 2 ปัจจัย "เฟด-การเมือง" ฉุดเงินไหลออกเพิ่มได้ เหตุต่างชาติยังลงทุนไทยล่าสุดถือพันธบัตร 10% ส่วนในหุ้นอีก 30% ด้านศูนย์วิจัยกสิกรฯ ระบุยังไม่เห็นปัจจัยหนุนให้เงินบาทกลับมาแข็งค่า ขณะที่แบงก์เตรียมสำรองเงินเพิ่มในเอทีเอ็มบางจุดรับมือปิดกรุงเทพฯ
  • ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนคดีนัดแรก พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ส.ส."เพื่อไทย"ปฏิเสธเสียบบัตรแทน อ้างพกบัตรหลายใบเพราะขี้ลืม ขณะ"กิตติรัตน์-ชัชชาติ"ยันจำเป็นเร่งด่วนทางเศรษฐกิจ รับกังวลความคุ้มค่าลงทุน พร้อมนัดไต่สวนผู้เชี่ยวชาญ 15 ม.ค.
  • นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำเดือนม.ค. อยู่ที่ระดับ 58.61 จุด เพิ่มขึ้น 13.09 จุด หรือ 28.76%จากเดือน ธ.ค. ที่ 45.52 จุด สะท้อนมุมมองเชิงบวกว่าราคาทองคำจะปรับขึ้นจากปัจจัยค่าเงินบาทที่อ่อนค่าและยังมีปัจจัยปัญหาทางการเมืองมาเสริมเรื่องค่าเงินบาทอีก พร้อมกับปัจจุบันตรงกับเทศกาลซื้อทองในช่วงวันปีใหม่ที่ต่อเนื่องมาวันตรุษจีน
  • "ก.ล.ต." ตรวจฐานะการเงิน "โบรกเกอร์-บลจ." รับมือปิดกรุงเทพ 13 ม.ค. สั่งรายงานข้อมูลรายวัน มั่นใจรองรับภาวะวิกฤติและความผันผวนของตลาดได้ แม้ตลาดหุ้นปรับลดลงรุนแรง 5-15% ติดต่อกัน 5 วัน พร้อมเพิ่มระยะเวลาพักใบอนุญาตพนักงานโบรกเกอร์ยาวขึ้นเป็นปี จากเดิมพักแค่เป็นเดือน หลังพบการทำความผิดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  • อธิบดีกรมสรรพสามิตเผยยอดผู้จองสิทธิรถยนต์คันแรกมียอดคงค้างอีก 1.2 แสนราย จากจำนวนผู้ได้รับสิทธิ 1.24 ล้านราย คิดเป็นเงินภาษีที่รัฐต้องจ่ายให้กว่า 9.13 หมื่นล้านบาทและจากการประเมินสถานการณ์ล่าสุดพบว่าน่าจะมีผู้ทิ้งใบจองแล้วอย่างน้อย 1 แสนราย เนื่องจากที่ผ่านมาค่ายรถยนต์ขนาดใหญ่ได้ทำการปิดบัญชีแล้ว ประกอบกับผู้จองสิทธิบางรายเปลี่ยนใจไปซื้อรถใหม่ที่มีโปรโมชั่นน่าสนใจกว่า และบางรายจองซื้อไว้หลายยี่ห้อ และรับรถไปแล้วโดยไม่ได้ยกเลิกอีกยี่ห้อหนึ่ง

*หุ้นเด่นวันนี้

  • KBANK(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 185 บาท ประเมินจะได้ประโยชน์จากการกลับมาซื้ออีกครั้งของนักลงทุนต่างชาติตั้งแต่ 2 ม.ค.KBANK เป็นหุ้นที่ถูกซื้อผ่าน NVDR สูงราว 2.59 พันล้านบาท เทียบกับช่วง 24 ต.ค.-27 ธ.ค.56 ที่เริ่มมีชุมนุมการเมือง KBANK ถูกขายสุทธิผ่าน NVRD ราว 2.85 พันล้านบาท ขณะที่พื้นฐานการที่ธนาคารมีนโยบายที่เน้นความระมัดระวัง และควบคุมการเติบโต ทำให้ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ค่อนข้างจำกัด ล่าสุดราคาหุ้นซื้อขายที่ PER และ PBV ที่ 8.2 และ 1.4 เท่า
  • AP (เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 6.70 บาท คาดปัจจัยบวกระยะสั้นจากผลประกอบการใน 4Q56 ที่ทำได้ดีเติบโตสูงกว่าทุกไตรมาส มีงานในมือราว 2.3 หมื่นล้านบาท คาดบันทึกรายได้ในปี 57 ได้ 1.1 หมื่นล้านบาทคิดเป็น 55% ของประมาณการรายได้ และมีผลตอบแทนเงินปันผลปี 56 ที่ระดับ 5%(จ่ายปันผลปีละ 1 ครั้ง)โดยมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามคือ การสร้างยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมาย รวมถึงการขาดแคลนที่มีผลการก่อสร้างที่ล่าช้าไม่ทันตามกำหนด
  • SCC(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 550 บาท คาดการณ์เงินปันผล 2H56 หุ้นละ 7.50 บาท และปี 57 หุ้นละ 15 บาท แนวโน้มผลประกอบการ 4Q56 ที่จะชะลอตัวลง qoq จากการปิดโรงงานปิโตรเคมีตามแผนซ่อมบำรุง ไม่ได้เป็นปัจจัยลบต่อราคาหุ้น ขณะที่ผลประกอบการ 1Q57 คาดว่าจะเติบโตโดดเด่น qoq หลังโรงงานปิโตรเคมีเดินเครื่องตามปกติแล้ว และส่วนต่างราคาเอทิลีนปรับตัวขึ้นถึง +6.7% wow เป็น US$403/ตัน จะเป็นอีกปัจจัยหนุนกำไร 1Q57 พร้อมคาดกำไรสุทธิปี 57 จะเติบโต +22.1% yoy เป็น 42,538 ล้านบาท และ +10.0% yoy ในปี 2558 เป็น 46,789 ล้านบาท
  • BLAND(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 2.80 บาท ราคาหุ้นมี Catalyst รออยู่ คาดการตั้งกอง REIT ที่อยู่ระหว่างรอกลต.อนุมัติจะมีความคืบหน้า และพร้อมทั้งการเปิดให้จองซื้อหน่วยลงทุนได้ภายใน 1Q57 และเป็นประเด็นบวกต่อปัจจัยพื้นฐานให้แข็งแกร่งขึ้น เบื้องต้นคาดจะมีกำไรพิเศษจากการตั้งกอง REIT สูงถึง 2,800-3,000 ล้านบาทบนสมมติฐานขนาดกองทุนที่ 1.9-2 หมื่นล้านบาท และได้รับเงินสดสุทธิเพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนสูงถึง 8 พันล้านบาท ราคาหุ้นยังต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีที่ 2.25 บาท และคาดว่าปี 56/57 จะเติบโตสูงถึง +77% yoy เป็น 4,141 ล้านบาทจากการรับรู้กำไรพิเศษจากการจัดตั้งกอง REIT

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ