(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าเปิดย่อ-ระหว่างวันอาจผันผวนในกรอบ เหตุการเมืองยังกดดัน

นอกจากนี้ เมื่อวานนี้ดัชนีฯก็ได้มีการปรับตัวขึ้นแรงในทิศทางเดียวกับตลาดอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ภายหลังจากที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯออกมาไม่ดี ทำให้เห็นว่าอาจจะมีการคงมาตรการ QE ไว้

"คิดว่าตลาดฯวันนี้ยังไม่ดีเท่าไร โดยดูทิศทางจากตลาดต่างประเทศ ซึ่งเช้านี้ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนลบ ตามดาวโจนส์"นายอดิศักดิ์ กล่าว

พร้อมให้แนวรับ 1,275-1,265 จุด แนวต้าน 1,295 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(13 ม.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,257.94 จุด ลดลง 179.11 จุด(-1.09%),ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,819.20 จุด ลดลง 23.17 จุด(-1.26%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,113.30 จุด ลดลง 61.36 จุด(-1.47%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 254.86 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 251.21 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 20.74 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 6.13 จุด และดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 17.61 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 2.40 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 4.63 จุด

ส่วนตลาดหุ้นมาเลเซีย และตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันหยุด

• ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(13 ม.ค.)ที่ 1,283.56 จุด เพิ่มขึ้น 28.11 จุด (+2.24%)
• นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,885.61 ล้านบาท เมื่อวันที่ 13 ม.ค.57
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้(13 ม.ค.)ที่ 91.8 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.92 ดอลลาร์ฯ
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(13 ม.ค.)ที่ 7.31 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 32.96/98 การเมืองยังเป็นปัจจัยหลักกดดันค่าเงิน
• นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด) ตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ตลท.ไม่มีความกังวลกรณี คปท. ประกาศจะบุกปิดล้อมตลาดในวันที่ 15 ม.ค.นี้ เนื่องจากมีหลายมาตรการดูแลพร้อมรองรับอยู่แล้ว และยืนยันว่า ตลท.ยังคงสามารถให้บริการซื้อขายได้จากระบบสำรองที่มีอยู่ของทั้ง ตลท. และโบรกเกอร์
• "สมชัย สัจจพงษ์" ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เปิดเผยว่า ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2557 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 5.04 แสนล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 1.34 หมื่นล้านบาท หรือ 2.7% แต่ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 0.8% โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีสุราและเบียร์จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมายจำนวน 4,259 และ 3,867 ล้านบาท ตามลำดับ เนื่องจากมีการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตสุราเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา
• สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ระบุความขัดแย้งทางการเมืองส่งผลกระทบค้าปลีกชะลอการเติบโตการบริโภคภายในประเทศลด วอนทุกฝ่ายช่วยกันหาทางออกโดยยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลักสำคัญ
• กปปส.ปิดกรุงวันแรก "สุเทพ" เดินสาย 7 เวที ประกาศชัตดาวน์ไม่มีกำหนด แกนนำลั่นยกระดับชุมนุมกดดันนายกฯ-ครม.ทุกวันผบ.ทบ.ลั่นไม่ยอมให้เกิดเหตุรุนแรง ศอรส.ห่วง 3 เวที "แจ้งวัฒนะลาดพร้าว-อนุสาวรีย์ชัยฯ"เสี่ยง
• กทท.ตั้งศูนย์ฉุกเฉินรับมือสถานการณ์ผู้ชุมนุมปิดกรุงเทพฯ รับการขนถ่ายสินค้าลดลง 30% ขณะที่เอกชนเร่งนำตู้สินค้า-สินค้าออกจากล่วงหน้า "ชัชชาติ" สั่งวิทยุการบินฯทำแผนรับมือหวั่น"คปท."บุกยึด ระบุหากปิดล้อมจริงกระทบสายการบินถึง 2,000 เที่ยวบิน สร้างความเสียหายระดับนานาชาติ กรมการบินฯย้ำโทษสูงสุดขั้นประหาร

*หุ้นเด่นวันนี้

• KCE(เคเคเทรด)เป้า 25.30 บาท ราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปี 2557 ปรับตัวลงมาแล้ว 10% เทียบกับค่าเฉลี่ยของหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่เราศึกษาอยู่ที่ปรับตัวลงมาเพียง 3% ส่งผลให้ล่าสุดราคาหุ้น KCE กลับมามี Potential Upside Gain เมื่อเทียบกับมูลค่าเหมาะสมปี 2557 ราว 21% ขณะที่เราประเมินผลการดำเนินงานในปี 2557 บริษัทจะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 20% YoY มากที่สุดในกลุ่มฯ นอกจากนี้ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงจะเป็นปัจจัยหนุนในเชิง Sentiment ด้วย โดยที่ในเบื้องต้นประเมินว่าทุกการอ่อนค่าลง 1% ของค่าเงินบาท จะส่งผลให้กำไรปกติของ KCE เพิ่มขึ้นราว 6% เป็นอันดับ 2 ของกลุ่มฯรองจาก HANA
• GLOW (เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 80 บาท ผลการดำเนินงานในปี 2557 จะได้รับปัจจัยหนุนจากการที่โรงไฟฟ้า GHECO-One กลับมาเดินเครื่องได้ตามปกติแล้ว ประกอบกับโรงไฟฟ้าฮ้วยเหาะที่จะกลับมาผลิตไฟฟ้าในอัตราที่สูงกว่าปกติ 28% ในปี 2557 ทำให้คาดกำไรสุทธิปี 2557 ไว้ที่ 9.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% YoY มองว่า GLOW น่าสนใจสำหรับการลงทุนมากที่สุดในกลุ่มธุรกิจไฟฟ้า จากการขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งโอกาสที่จะชนะประมูลโรงไฟฟ้าเพิ่ม หากแผน PDP ฉบับใหม่มีความต้องการโรงไฟฟ้าถ่านหินเพิ่ม
• JMT(ทรีนีตี้)ซื้อลูกหนี้ Easy buy โดยบริษัทได้ลงนามในสัญญาโอนสิทธิเรียกร้องในหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลของบริษัท อีซี่ บาย โดยมูลค่าหนี้เท่ากับ 637 ล้านบาท จึงคาดว่าในปีนี้น่าจะเป็นปีที่ดีสำหรับ JMT โดยตั้งแต่ พ.ย. 56 บริษัทได้มีการซื้อลูกหนี้ทั้ง สินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์แล้วกว่า 5.6 พันล้านบาท ซึ่งจะช่วยหนุนผลประกอกบการในระยะยาว เป้าเทคนิคระยะกลางที่ 13 บาท
• PTTEP(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 183 บาท วืดชนะประมูลโครงการ Pangkah เนื่องจากผู้ร่วมทุนของโครงการได้ใช้สิทธิการเข้าซื้อก่อน (Pre-emption right) อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า PTTEP มีโอกาสค่อนข้างสูงที่จะชนะโครงการอีก 2 แหล่งในประเทศ ในโครงการสินภูฮ่อม ที่อุดรธานีและข่อนแก่น อีกทั้งเป็นผู้ร่วมทุนและถือหุ้น 15% ในโครงการ อย่างไรก็ตาม สัดส่วนของกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากการเข้าซื้อกิจการ HESS นั้นคิดเป็นสัดส่วนที่ค่อนข้างน้อย (6-7 KBD) เมื่อเทียบกับกำลังการผลิตรวม (295KBOED) ทั้งนี้ มองว่าปี 57 แหล่งซอติก้าจะเข้ามาช่วยหนุนฐานกำไรตั้งแต่ 2Q57 เป็นต้นไป
• BECL(ฟินันเซีย ไซรัส)มอง Upside ของราคาหุ้นยังคงสูงมาก และคาดเงินปันผลตอบแทน 5-6% ต่อปี และในปีนี้จะได้ผลบวกจากการปรับขึ้นค่าทางด่วนเต็มปี แม้ว่ารายงานปริมาณการใช้ทางด่วน ธ.ค. ที่ 1.032 ล้านคันต่อวัน -5.3% Y-Y, -7.6% M-M ลดลงมากเพราะมีวันหยุดยาวหลายวัน การชุมนุมยังไม่กระทบมากนักในเดือน ธ.ค. แต่คาดว่าจะเริ่มกระทบใน ม.ค. สำหรับรายได้ค่าทางด่วนใน 4Q13 โดยคาด +6% Y-Y, +2.8% Q-Q เพราะการขึ้นค่าทางด่วนตั้งแต่ 1 ก.ย. 2013 ชดเชยปริมาณการใช้ทางด่วนที่ลดลงได้ อย่างไรก็ตาม จะปรับเป้าหมายจากปัจจุบันที่ 50 บาทลงเล็กน้อยจากการปรับกำไรลง