ในช่วงซ่อมบำรุง ผู้ใช้ก๊าซฯ ทุกกลุ่ม ทั้งไฟฟ้า อุตสาหกรรม และขนส่ง ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ เนื่องจาก ปตท. ได้วางแผนบริหารจัดการด้านพลังงานอย่างรัดกุม ด้วยความร่วมมือของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงพลังงานและหน่วยงานในสังกัด การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ที่สำคัญคือ การได้รับความร่วมมือทั้งจากภาคผู้ผลิต อุตสาหกรรม และประชาชนร่วมใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างประหยัด ช่วยให้การบริหารจัดการพลังงานของประเทศในช่วงหยุดจ่ายก๊าซฯ เป็นไปด้วยความราบรื่น
ทั้งนี้ ปตท. ได้จัดหาและสำรองเชื้อเพลิงทุกประเภทเพื่อให้เพียงพอรองรับต่อความต้องการใช้ของ ทุกภาคส่วนในช่วงระยะเวลาดังกล่าว และพร้อมสำรองในกรณีฉุกเฉินหากต้องขยายเวลาการปิดซ่อมออกไป โดยสรุปในการซ่อมบำรุงครั้งนี้ ปตท. ได้รับก๊าซฯ จากผู้ผลิตในทะเลและบนบก รวมทั้งก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) รวม 3,829 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ปริมาณการใช้น้ำมันเตารวม 65.9 ล้านลิตร ต่ำกว่าแผน 45.4 ล้านลิตร และการใช้น้ำมันดีเซลรวม 12.1 ล้านลิตร สูงกว่าแผน 1.4 ล้านลิตร (ข้อมูล ณ วันที่ 13 ม.ค.57) รวมทั้งได้ติดตามและบริหารการจัดการด้านพลังงานของประเทศ ผ่านศูนย์ติดตามสถานการณ์ฯ อย่างต่อเนื่องทุกวัน เพื่อประสานงานการซ่อมบำรุงกับแหล่งผู้ผลิต การบริหารจัดหาจัดส่งพลังงานสำรอง รวมทั้งการจัดส่งก๊าซฯ ผ่านระบบท่อส่งก๊าซฯ และโรงแยกก๊าซฯ อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง ส่งผลให้การจัดการพลังงานของประเทศในช่วงดังกล่าวผ่านพ้นไปด้วยดี
นายไพรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากแหล่งก๊าซธรรมชาติของไทยส่วนใหญ่ มีอายุการใช้งานมานาน จำเป็นต้องมีการหยุดซ่อมบำรุงสม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถรักษาศักยภาพการผลิตของแหล่งก๊าซฯ ไว้ได้ และเพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานของคนไทยทุกภาคส่วน