โบรกฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) คาดกำไรปีนี้เพิ่มขึ้น 24% จากปีก่อน หลังรวม MAKRO ชัดเจน ความเสี่ยงทางการเงินลดลง ขณะที่กลุ่ม CP สนใจซื้อ Cash & Carry ในเวียดนาม หากสำเร็จจะแข็งแกร่งในภูมิภาค มองหุ้นกู้อนุพันธ์ของ CPFH (บ.ย่อย 100% ของ CPF) ให้สิทธิ์ยืมหุ้น CPALL ด้วยต้นทุน 1% ไม่ส่งผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานของ CPALL ในระยะยาว
โบรกฯ คำแนะนำ ราคาพื้นฐาน(บาท)
บล.ธนชาต ซื้อ 60.00
บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) ซื้อ 57.00
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ซื้อ 52.00
บล.ทรีนีตี้ ซื้อ 53.00
บล.ทิสโก้ ซื้อ 46.00
น.ส.สุทธาทิพย์ พีรทรัพย์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง แนะ"ซื้อ" ให้ราคาเป้าหมาย 52 บาท ในแง่ภาพรวมเศรษฐกิจอาจทำให้กำลังซื้อชะลอลงบ้าง บางพื้นที่ที่มีการชุมนุมยอดขายอาจดีขึ้น แต่สาขา 7-Eleven มีทั่วประเทศ 7,000 สาขา อาจมีบางพื้นที่ขายดีขึ้นกว่าปกติ แต่บางพื้นที่ไม่มีผลกระทบ
ภาพรวมแนะ"ซื้อ"คาดกำไรปีนี้เพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 24% มาที่ 13,500 ล้านบาท แนวโน้มกำไรจะดีขึ้นเรื่อยๆหลังจากการรวม บมจ.สยามแม็คโคร(MAKRO) เข้ามาคงช่วยในแง่ระบบของการจัดซื้อสินค้าบางประเภทร่วมกัน ปีนี้คาดยอดขายมาที่ 3.97 แสนล้านบาท โตจากปีก่อนที่คาด 2.89 แสนล้านบาท
น.ส.ศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) แนะ"ซื้อ"บนราคาพื้นฐานปี 57 ที่ 55.75 บาท กลุ่ม CP สนใจเข้าซื้อธุรกิจ Metro จาก Metro Group AG ของเยอรมนี ส่งผลให้หุ้น CPALL ปรับตัวลงจากความกังวลอาจต้องเพิ่มทุน แต่คาดหากซื้อสำเร็จจะมี Presence ที่แข็งแกร่งในภูมิภาครองรับการแข่งขันในอนาคต ทั้งยังสามารถกันคู่แข่งเช่น BJC ซึ่งก็คาดมีความสนใจเข้ารุกธุรกิจปลายน้ำเช่นกัน นอกจากนี้จะสามารถรับรู้ผลประกอบการของธุรกิจที่เวียดนามได้ทันทีแม้มีภาระด้านรายจ่ายเพิ่มขึ้น ในทางกลับกันแต่หากไม่สำเร็จยังสามารถใช้ MAKRO เป็นตัวบุกธุรกิจในต่างประเทศซึ่งคาดจะเริ่มเห็นชัดในปี 2558 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม มองการเจรจายังอยู่ในขั้นต้น โดยแม้มีข่าวว่ากลุ่ม Metro ได้ปฎิเสธข้อเสนอของกลุ่ม CP ไปแล้วเนื่องจากราคาเสนอต่ำเกินไป ทั้งกลุ่ม Metro ยังไม่ได้มีการประกาศขายอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตามมองว่ายังมีโอกาสในที่สุดกลุ่ม Metro จะขายธุรกิจออกมาพิจารณาจากการที่ Metro Group AG อยู่ระหว่างการปรับองค์กรให้เล็กลง รวมถึงมีมาตรการลดต้นทุน
สำหรับกรณีการออก Exchangeable Bonds ของ CPFH หากมีการแปลงเป็น CPALL จะอยู่ที่ราว 180 ล้านหุ้น โดยรายการดังกล่าวไม่ได้มีผลต่อ CPALL เนื่องจากเป็นการใช้หุ้นที่ CPFH ถืออยู่แล้วทั้งนี้ปัจจุบันกลุ่ม CPF ถือหุ้น CPALL ที่ราว 32%
บล.ธนชาต แนะ"ซื้อ" ให้ราคาเป้าหมาย 60 บาท แม้ CPF ได้มีการเสนอขายหุ้นกู้อนุพันธ์มูลค่า 290.4 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยผู้ถือหุ้นกู้ฯมีสิทธิเลือกแปลงสภาพหุ้นกู้ฯเป็นหุ้น CPALL ที่ราคา 53.30 บาท หรือไถ่ถอนหลังจาก 2 ปี หรือไถ่ถอนเมื่อหุ้นกู้ฯครบกำหนด 5 ปี คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อหุ้นราคา CPALL เพราะด้วยขนาดมูลค่าหุ้นกู้ฯและราคาแปลงสภาพที่ 53.30 บาท หุ้นกู้ฯสามารถถูกแปลงเป็นหุ้น CPALL ที่จำนวน ~180 ล้านหุ้น (เพียง 2%) ราคาแปลงสภาพสูงกว่าราคาตลาดปัจจุบัน ในกรณีที่ผู้ถือหุ้นกู้ฯใช้สิทธิแปลงสภาพ CPFH สามารถให้เป็นหุ้น CPALL หรือไถ่ถอนหุ้นกู้ฯโดยจ่ายเงินสด นี่หมายถึง CPFH สามารถเลือกที่จะถือหุ้น CPALL ได้หากราคาหุ้น CPALL ขึ้นสูง
มองสิทธิแปลงหุ้นกู้ฯเป็นหุ้น CPALL ทำให้หุ้นกู้ฯของ CPF น่าสนใจมากขึ้น และทำให้ CPF มีต้นทุนหนี้สินต่ำมากที่ 0.5 % มองว่าเป็นการยืนยันแนวโน้มการเติบโตที่ดีมากของ CPALL ในอนาคต
"แนะ ซื้อ CPALL และเป็นหนึ่งในหุ้น Country Top Picks ของเรา การปรับลดลงของราคาหุ้นหลังการประกาศออกหุ้นกู้ฯนี้เป็นโอกาสซื้อที่ดี" บล.ธนชาต กล่าว
นักวิเคราะห์ บล.ทิสโก้ แนะ"ซื้อ" ช่วงนี้ค้าปลีกได้รับผลดีเพราะคนอาจจะออกไปข้างนอกยาก ให้เป้า 46 บาท ส่วนที่ CPF ออกหุ้นกู้ไม่น่าจะกระทบในเชิงพื้นฐานไม่เกี่ยวกับ CPALL ในเชิงโอเปอเรชั่น เพราะเป็นเรื่องของ CPF ทำไฟแนนซ์
ปี 57 มองกำไรโตดีเพราะปี 56 กำไรไม่น่าจะโตเพราะมีเรื่อง MAKRO เข้ามา แต่ปี 57 อย่างน้อยต้องโตเพราะค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับดีล MAKRO จะน้อยลงกว่าปี 56 หรืออาจจะไม่มีเลย